[รีวิว] สรุปข้อคิดจากหนังสือ “จูบกบตัวนั้นซะ! (ฉบับปรับปรุง) 2023 (Kiss That Frog!)” [เล่มที่ 136 ของปี 2023]

จูบกบตัวนั้นซะ - PR 2023 09 28 135258 - ภาพที่ 1

ถ้าพูดถึงหนังสือที่ชื่อว่า จูบกบตัวนั้นซะ! หนอนหนังสือหลายท่านคงรู้จักกันดี เป็นหนังสือดีที่คนรักการอ่านล้วนต้องเคยอ่านมาอย่างแน่นอน ล่าสุดออกฉบับปรับปรุงมา ใช้ชื่อว่า “จูบกบตัวนั้นซะ! (ฉบับปรับปรุง) 2023 (Kiss That Frog!)” ถือเป็นหนังสือเล่มที่ 136 ของปี 2023 ที่ผมอ่านจบ ผู้เขียน Brian Tracy, Christina Tracy Stein ผู้แปล พรเลิศ อิฐฐ์ โดยสำนักพิมพ์ วีเลิร์น (WeLearn) หนังสือช่วยลดอารมณ์ลบ เพิ่มอารมณ์บวก คู่มือจัดการอารมณ์ความรู้สึกที่ใช้ได้ผลตลอดชีวิต BRIAN TRACY

เกริ่นนำ

ไบรอัน เทรซี่ นักเขียนระดับโลก และ คริสตินา สไตน์ นักจิตวิทยาชื่อดังจะแนะนำเทคนิคที่เรียบง่าย แต่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าใช้ได้ผลจริง ซึ่งช่วยให้คุณสำรวจอารมณ์ลบที่กำลังเป็น “ต่อมพิษ” ในชีวิตคุณแล้วจัดการมันให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อพบกับชีวิตที่สุขสมหวังดังที่ต้องการ

ผู้เขียนหนังสือขายดี Eat That Frog! CHRISTINA STEIN “อารมณ์ลบ” เปรียบได้กับกบหน้าตาอัปลักษณ์มันจะค่อย ๆ กัดกินคุณจากข้างในโดยที่คุณไม่รู้ตัว และสร้างความลำบากให้ชีวิตอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่เมื่อคุณเลือกที่จะจูบกบตัวนั้นอารมณ์ลบทั้งหลายจะถูกปลดล็อก แล้วชีวิตของคุณก็จะเป็นอิสระทันที

สรุปข้อคิดจากหนังสือ “จูบกบตัวนั้นซะ! (ฉบับปรับปรุง) 2023 (Kiss That Frog!)”

คุณมีคุณค่าเกินกว่าเครื่องมือใดๆ จะวัดออกมาเป็นตัวเลขได้

คุณเป็นคนสำคัญต่อตัวคุณเอง โลกของคุณหมุนรอบตัวคุณเพียงคนเดียว คุณเป็นคนให้ความหมายกับสิ่งที่คุณเห็นหรือได้ยิน ในโลกของคุณ ไม่มีอะไรที่จะมีความสำคัญขึ้นมาได้ เว้นเสียแต่ว่าคุณให้ความสำคัญกับมัน

คุณมีศักยภาพไร้ขีดจํากัดในการสร้างชีวิตและโลกของคุณอย่างที่ใจคุณปรารถนา คุณไม่สามารถใช้ศักยภาพที่มีอยู่ได้หมดแม้ว่าจะเกิดมาอีกกี่ร้อยชาติก็ตาม

ความเชื่อว่าตัวเองมีศักยภาพไร้ขีดจำกัดถือเป็นกุญแจดอกสำคัญไปสู่การเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณสามารถเป็นได้จริงๆ

คุณสร้างโลกของตัวเองผ่านความคิดและความเชื่อของคุณ ความเชื่อเป็นตัวกำหนดสภาพความเป็นจริงในชีวิตของคุณขึ้นมา และความเชื่อในแง่ลบสร้างข้อจำกัดให้กับตัวคุณเอง

สิ่งหนึ่งที่คุณควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จก็คือความคิดของคุณ คุณสามารถเลือกที่จะคิดอย่างมีความสุขและมีความหวัง หรือไม่คุณอาจลงเอยด้วยการเลือกที่จะคิดในแง่ลบหรือคิดแบบสร้างข้อจำกัดให้ตัวเอง

ไม่มีขีดจำกัดว่าคุณสามารถทำเป็นหรือมีอะไรได้บ้าง เว้นเสียแต่ว่าคุณจะยัดขีดจำกัดนั้นลงไปในหัวคุณเอง

ศัตรูฉกาจที่สุดที่คุณจะได้เจอในชีวิต ก็คือความสงสัยและความกลัวของคุณ

คนอื่นไม่มีทางเปลี่ยนแปลง การพยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่นมักจะสร้างความคับข้องใจให้กับเราเสมอ

หากเราไม่มีความปรารถนาและความทุ่มเทที่จะลงมือเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างแท้จริง ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะประสบความสำเร็จ

คุณต้องไม่เอาความสงบในจิตใจไปแลกกับการคาดหวังว่าใครบางคนจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคุณ

การปฏิเสธไม่ยอมเผชิญหน้ากับสภาพความเป็นจริงถือเป็นต้นตอของความเครียด ความวิตกกังวล

หนึ่งในกุญแจสำคัญไปสู่ความสุขคือ การตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่หงุดหงิดหรือโมโหเพราะข้อเท็จจริง

ข้อเท็จจริงส่วนใหญ่ที่ทำให้คุณไม่มีความสุขนั้นล้วนอยู่ในอดีต สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นข้อเท็จจริง เพราะเรากลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

คนส่วนใหญ่มักเป็นทุกข์และไม่มีความสุขในปัจจุบันเพราะมีบางสิ่งไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ในอดีต

เรามักยึดติดอยู่กับความคิดในแง่ลบ เพราะมันช่วยปกป้องเราไม่ให้ต้องเสี่ยงทำอะไรใหม่ๆ

วิธีหนึ่งที่คุณสามารถควบคุมสถานการณ์ในแง่ลบก็คือ การวิเคราะห์มันอย่างรอบคอบ ทำได้ด้วยการตั้งคำถาม เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะหงุดหงิด โกรธ หรือสติแตก เมื่อคุณตั้งคำถามและพยายามทำความเข้าใจในสถานการณ์

จดจ่ออยู่กับการทำความเข้าใจสถานการณ์ให้กระจ่างก่อน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจหรือหาข้อสรุป

อย่าคิดหรือคึกคักเอาเองว่าสถานการณ์จะเป็นไปในทางที่เลวร้ายที่สุด

การปฏิเสธคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอารมณ์ในแง่ลบและสถานการณ์ที่น่ากังวล

อารมณ์ในแง่ลบจะมาจากแหล่งใดก็ตามมันก็เป็นรากเหง้าของการไม่มีความสุข ถ้าคุณกำจัดอารมณ์ในแง่ลบทิ้งไปได้ ชีวิตย่อมเปลี่ยนแปลงไปในอย่างสิ้นเชิง

ความคิดของมนุษย์เราก็เหมือนกับห้องสูญญากาศ มันจะว่างเปล่าอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อคุณกำจัดอารมณ์ในแง่ลบทิ้งไป อารมณ์ในแง่บวกก็จะเข้ามาแทนที่โดยธรรมชาติ

จงเสาะหาบทเรียนอันล้ำค่าจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประสบการณ์อันเลวร้ายทั้งหลาย

อารมณ์ในแง่ลบมักเริ่มจากก้อนเล็กๆ ก่อน ยิ่งคุณทุ่มเทพลังงานและความใส่ใจให้กับมันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นมากเท่านั้น

จงเลือกที่จะอยู่กับความคิดและอารมณ์ในแง่บวก แล้วปล่อยให้ความคิดและอารมณ์ในแง่ลบแห้งเหี่ยวเฉาตายไป

เรานั่นแหละที่เป็นคนกำหนดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเราเอง รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเราด้วย เราเป็นคนที่ให้ความหมายกับทุกๆ ด้านของชีวิตไม่ใช่ใครอื่น

ตัวสถานการณ์ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกมีความสุขหรือไม่มีความสุข แต่การตีความของเราที่มีต่อสถานการณ์นั้นต่างหากที่กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกตามมา

หากเราต้องการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากอารมณ์ในแง่ลบ เราก็ต้องรู้ก่อนว่ามันมีต้นตอมาจากไหน จะได้กำจัดให้ถูกจุด หรือไม่ก็ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น

มีเพียงเราคนเดียวเท่านั้นที่จะเอาอารมณ์ใดๆ เข้าไปผูกโยงกับสถานการณ์ เราเลือกได้ว่าจะยึดติดหรือปล่อยวาง

ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ตราบใดที่มันไม่ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อชีวิตผู้อื่น จงใช้ชีวิตของตัวเองและปล่อยให้ผู้อื่นได้ใช้ชีวิตของพวกเขาด้วยเช่นกัน

ไม่มีใครทำให้เรารู้สึกอะไรทั้งนั้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเราแล้วมีอำนาจเหนือตัวเรา ไม่มีเหตุการณ์ สถานการณ์ หรือบุคคลใดในอดีตที่สามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเราได้ หากเราไม่อนุญาต

ยิ่งเราพูดคุยซ้ำๆ เกี่ยวกับเรื่องร้ายๆ มากเท่าไหร่ เรายิ่งเติมเชื้อไฟให้อารมณ์ในแง่ลบลุกลามออกไปมากเท่านั้น

หนึ่งในแง่มุมอันเลวร้ายที่สุดของความโกรธก็คือ ยิ่งเราแสดงความโกรธออกมามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากเท่านั้น ยิ่งเรารู้สึกโกรธมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้นด้วย

สิ่งที่ทำให้เราไม่ยอมหายโกรธคือ ความต้องการที่จะให้ใครบางคนรับรู้และเข้าใจในความเจ็บปวดของเรา

วินาทีที่เราเริ่มกล่าวโทษคนอื่นและรู้สึกโกรธในสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะสูญเสียความสามารถในการคิดอย่างกระจ่างชัดและการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด เราจะตกเป็นทาสของอารมณ์

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ชีวิตของเราในปัจจุบันเป็นผลมาจากความคิดของเราในอดีต

เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตเรา สิ่งที่กำหนดว่าเราจะมีความรู้สึกอย่างไรนั้นไม่ใช่ตัวเหตุการณ์เอง แต่เป็นวิธีที่เราตอบสนองต่างหาก

เราให้ความหมายกับทุกสิ่งที่เราเห็น ตัวเราเองนั่นแหละที่เอาอารมณ์ไปผูกติดกับสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ในแง่บวกหรือลบก็ตาม

ค้นหาบทเรียนอันล้ำค่าในทุกๆ ปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

เปลี่ยนคำศัพท์ของคุณ แทนที่จะใช้คำว่า “ปัญหา”ก็ให้ใช้คำว่า “สถานการณ์” แทน

การมองโลกในแง่ดีไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเพิกเฉยต่อปัญหาหรืออุปสรรค แต่คุณเลือกที่จะเข้าหามันในแง่บวกและสร้างสรรค์

การยอมรับว่าเราตัดสินใจผิดพลาดเป็นจุดแข็ง ไม่ใช่จุดอ่อน เราควรรักษาสิทธิที่จะเปลี่ยนใจเมื่อได้รับรู้ข้อมูลใหม่ๆ เอาไว้เสมอ

ความคิดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ มันเปลี่ยนนรกให้เป็นสวรรค์และเป็นสวรรค์ให้เป็นนรกได้

ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นกับชีวิตเรา สิ่งสำคัญคือเราต้องยอมรับมันเสียก่อน เราถึงจะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้

จงปฏิเสธที่จะจมอยู่กับความเสียใจหรือความเสียดายเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่คุณไม่มีอำนาจควบคุมเลย

อย่าวิพากย์วิจารณ์ตัวเองไม่ว่าในเรื่องใดก็ตาม อย่าพูดอะไรเกี่ยวกับตัวเองที่เราไม่อยากให้มันเป็นจริง

หากผู้อื่นทำได้ดีกว่าคนในบางเรื่อง จงอวยพรให้พวกเขาและชื่นชมกับความสำเร็จนั้น

คุณจะมีสุขภาพทางความคิดดีเพียงใด ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถให้อภัย ลืม และปล่อยวางประสบการณ์อันเลวร้ายได้ดีแค่ไหน

หากคุณไม่จงใจเลือกความคิดในแง่บวกที่ทำให้คุณมีความสุขแล้ว สมองของคุณจะเลือกความคิดในแง่ลบที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขโดยอัตโนมัติ

หากเราฝึกคิดบวกอย่างสม่ำเสมอ ในที่สุดแล้ว มันจะกลายเป็นวิธีคิดโดยอัตโนมัติของเรา

การให้อภัยไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนอื่นแต่เกี่ยวกับเราล้วนๆ เราเพียงคนเดียวเท่านั้น เราไม่ได้ปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระ แต่เราปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระต่างหาก

ช่องทางซื้อหนังสือ

ซื้อหนังสือ
– Lazada: https://s.lazada.co.th/s.PVHfH?cc
– Shopee: https://shope.ee/8pJvtvAN2H