หนังสือเล่มที่ 115 ของปี 2023 ที่อ่านจบไป คือหนังสือ “ชีวิตสู้กลับแบบนี้ต้องทำไง” โดยสำนักพิมพ์ DOT เป็นหนังสือที่รวมนักเขียนหลายๆ คน อาทิ หมอจริง, ดีเจพี่อ้อย, คิดมาก, สุริพงษ์ ตันติยานนท์, นภดล ร่มโพธิ์, ทิง (วันนี้เจอนั่น), ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่, อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์, เธมส์ THINKต่าง, โอมศิริ วีระกุล, TAXBugnoms, โสภณ ศุภมั่งมี, Low Profile
ซื้อหนังสือ
– Lazada: https://s.lazada.co.th/s.kkfPP?cc
– Shopee: https://shope.ee/6fEfcBUPEA
สรุปข้อคิดจากหนังสือ “ชีวิตสู้กลับแบบนี้ต้องทำไง”
หากใครที่เคยท้อกับการตั้งเป้าหมายแล้วไปไม่ถึง ลองหยุดมองดูชีวิต แล้วดูว่าเรามาไกลแค่ไหนกัน การได้ทำตามเป้าหมาย หรือเข้าใกล้เป้าหมายจะทำให้เรามีกำลังใจในการตั้งเป้าอื่นๆ ต่อไปได้
ชีวิตมีทั้งสมหวังและผิดหวัง การที่ทุกอย่างในชีวิตไม่ได้ดั่งใจไม่ได้แปลว่าชีวิตล้มเหลว
เวลาที่ต้องตัดสินใจอะไร ทำตามเสียงหัวใจตัวเอง อย่าเลือกทางที่จะทำให้เราโทษคนอื่นภายหลัง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราเป็นเจ้าของการตัดสินใจนั้นเอง
ในทุกช่วงวัยมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เราไม่ต้องกดดันตัวเองว่าต้องเก่งเหมือนคนนั้น ต้องทำได้ดีเหมือนคนนี้ แต่ละคนมีเส้นทางในวัยทำงานที่แตกต่างกัน
คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าคุณต้องการอะไรจนกว่าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์นั้น
การจะดูแลคนอื่นได้เราต้องดูแลตัวเราก่อนเสมอ
คุณจะรอให้ชีวิตไม่โหดร้ายแล้วค่อยมีความสุขไม่ได้
ความสุขไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในอนาคต เราไม่ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า หรือปีหน้าเพื่อจะมีความสุข แต่เรามีความสุขได้เลยในตอนนี้
เราต้องฝึกให้ตัวเองมีความสุขในปัจจุบันให้ได้ เพราะพรุ่งนี้เราไม่มีทางรู้หรอกว่าจะมาถึงจริงๆ หรือเปล่า
เรียนรู้และสร้างหลักการของตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือก ให้ยึดถือหลักการของตัวเองเอาไว้
อย่าให้การเป็นผู้ใหญ่ทำให้เราลืมไปว่าคนเราเกิดมาเพื่อมีความสุข การโฟกัสที่ความสุขและมองเห็นความสุขเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในแต่ละวันด้วยความรู้สึกขอบคุณ จะช่วยให้สมองเรามองเห็นความสุขมากขึ้น
ยิ่งเราเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีมากเท่าไหร่ ชีวิตกลับจะยิ่งดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาเรามากเท่านั้น
หากเรารักใครแล้วกันอยู่กับทุกแง่มุมของเขาได้คือสิ่งสำคัญ หรือถ้าอยู่ไม่ได้จริงๆ ก็แค่แยกย้ายกันไป แต่ไม่ใช่อยู่แล้วทำร้ายความรู้สึกกัน
เคารพในสิ่งที่คนที่เรารักเป็น ชื่นชมในข้อดี เข้าใจในข้อเสีย รับรู้ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปทั้งหมด หรือเป็นดั่งใจใครได้ทั้งหมด
ความสุขเกิดขึ้นจากการแบ่งเวลาให้ตัวเองเป็น การมีความรักความเมตตาให้กับตัวเอง ความสุขในตัวเราจะส่งต่อไปยังคนที่เรารัก
สุขภาพจิตคือสิ่งที่สำคัญกับชีวิต ถ้าเรามีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขกับชีวิตการทำงานและการใช้ชีวิตของเราในทุกด้านก็จะดีไปหมด
การได้ทำงานในที่ที่ศักยภาพของเราได้ส่องประการ จะช่วยให้เราเห็นคุณค่าตัวเอง และรักตัวเองได้มากขึ้น
ถ้ายังไม่รู้ว่าอยากทำอะไร ก็ลองทำไปก่อนไม่เสียหายขอแค่อย่าเกลียดก็พอ แล้วเดี๋ยวเราจะค่อยๆ เห็นทางของเราต่อไป ไม่ต้องรีบ
ยิ่งเราเก่งและอ่อนน้อมถ่อมตนด้วย คนยิ่งจะรักและชื่นชมเรามากขึ้น และนั่นน่าจะทำให้เรามีโอกาสเติบโตขึ้นไปได้เรื่อยๆ
ไม่มีใครได้ดั่งใจเราไปซะทุกอย่าง แม้แต่ตัวเองในบางวันยังไม่ได้ดั่งใจเราเลย เราเลือกคนที่เราเจอไม่ได้ แต่เลือกจะวางเขาไว้ตรงไหนในชีวิตเราได้
คนเราอาจมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่มีข้อจำกัดต่างกัน เรามีสองมือ สองขาเหมือนกัน แต่ภาระหน้าที่ต่างกัน หากทำไม่ได้เหมือนคนอื่นไม่ใช่ว่าเราห่วยเสมอไป เรามีขีดจำกัดของตัวเอง เส้นทางของเราไม่ควรสร้างขึ้นจากมาตรฐานการใช้ชีวิตของคนอื่น
เรามักไม่ได้ตัดสินสิ่งต่างๆ เพราะว่ามันไม่ถูกต้อง เรามักตัดสินสิ่งต่างๆ เพราะว่ามันไม่ถูกใจเรา
ชีวิตเป็นเรื่องของความสมดุล ถ้าปิดตัวเองมากเกินไปก็อาจพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิต แต่ถ้าตอบรับทุกเรื่องโดยไม่คิด เราอาจเก็บรักษาสิ่งสำคัญจริงๆ ในชีวิตเอาไว้ไม่ได้
ความผิดพลาดที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของคนเรา คือการคิดไปว่าเรายังมีเวลาอีกมากมายในชีวิต
เราทุกคนต่างมีเวลาและพลังงานในชีวิตที่จำกัด การเร่งทำทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้านั้นให้เร็วที่สุดอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป
งานอดิเรกที่เราชอบจะช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความเหนื่อยล้าลง ทำให้เราสดชื่น มีพลัง พร้อมที่จะออกไปลุยกับโรคใบนี้อีกครั้ง
ความสุขของเราควรเป็นเรื่องธรรมดา และความสุขของเราควรเป็นของเราจริงๆ
เป้าหมายชีวิตที่ดีมันควรทำให้เรามีความสุขในระหว่างที่ทำ และมีความสุขที่ว่ามันควรเป็นความสุขของเราจริงๆ
ไม่ต้องมั่นใจในทุกอย่าง ก็ยังทำสิ่งที่คิดว่าดีต่อชีวิตตัวเองต่อคนอื่นได้เหมือนกัน