หนังสือ “ถึงเวลาบอกลาชีวิตเวิร์กไร้บาลานซ์” คือเล่มที่ 186 ที่อ่านจบของปี 2023 ผู้เขียน อันซองมิน เล่มนี้เป็นหนึ่งในเล่มใหม่ล่าสุดที่ได้มา ต้องขอบคุณทางสำนักพิมพ์ O2 ที่ส่งเล่มนี้มาให้อ่าน หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแค่ช่วยคุณปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยคุณให้สำรวจตรวจเช็กตนเอง และตั้งเป้าหมายชีวิตของคุณเอง เมื่อมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจนขึ้น ก็จะจัดลำดับความสำคัญของชีวิตได้ใหม่ และปรับตาชั่งของชีวิตให้สมดุลได้ดียิ่งขึ้น
เกริ่นนำ
หนังสือ “ถึงเวลาบอกลาชีวิตเวิร์กไร้บาลานซ์” บอกกับเราว่าเมื่อทุ่มเททำงานหนักเพื่อความก้าวหน้า แต่กลับยิ่งรู้สึกห่างไกลจาก “การมีชีวิตที่ดี” ที่ตามหา
อาจถึงเวลาแล้วที่ต้องตั้งคำถามกับการทำงานเสียใหม่ ทั้งในแง่สังคมและปัจเจกบุคคลหนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกว่าสมดุลชีวิตคือการต้องเลิกงานตรงเวลาเป๊ะๆ เท่านั้น แต่ชี้ชวนให้ผู้อ่านพิจารณาชีวิตของตัวเองว่าต้องการมีชีวิตแบบไหน อะไรคือสิ่งไม่จำเป็นที่ต้องทิ้งไป และอะไรคือสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจจริงๆ
พร้อมเทคนิคปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ใช้เวลาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด แล้วเราจะได้มีเวลากลับมาใช้ชีวิตเพื่อตัวเองจริงๆ เสียที
สรุปข้อคิดจากหนังสือ “ถึงเวลาบอกลาชีวิตเวิร์กไร้บาลานซ์”
การรักษาสมดุลชีวิตไม่ใช่การเลือกว่างานหรือครอบครัวสำคัญกว่ากัน งานกับชีวิตเป็นสิ่งที่ต้องดูแลให้สอดประสานไปด้วยกัน
เราควรค้นหาการเยียวยาที่แท้จริง ไม่ใช่การซื้อเครื่องใช้ราคาแพงและสนุกสนานกับกิจกรรมที่ต้องใช้เงินมากเพียงเพื่อถ่ายรูปลงโซเชียล
รูปแบบการใช้ชีวิตของใครคนๆ นั้นจะต้องเป็นผู้เปลี่ยน
สมดุลชีวิตเป็นวัฒนธรรมและการรับรู้อย่างหนึ่ง
ถ้าเราคุ้นเคยกับชีวิตที่เหมือนทาสมากเกินไป เราจะเริ่มโอ้อวดโซ่ตรวนที่รัดข้อเท้าของเราไว้ว่า ของใครมีประกายมากกว่ากันหรือหนักกว่ากัน
บางทีเรายอมรับความไร้เหตุผลภายใต้ชื่อเรียกว่า ธรรมเนียม ที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้โดยไม่คิดสงสัยหรือหาเหตุผลที่เหมาะสม
การทำงานล่วงเวลาช่วยยกระดับประสิทธิผล คือ คำโกหก
การทำงานล่วงเวลาบ่อยๆ แสดงว่าโครงสร้างขององค์กรนั้นผิดพลาด
จงจำเอาไว้ว่าตำแหน่งในที่ทำงานไม่สามารถบอกเล่าถึงชีวิตของใครคนหนึ่งได้ทั้งหมด
ชีวิตของ “ฉัน” ที่ประเมินและรู้สึกด้วยตัวเอง ต้องสำคัญกว่า “ฉัน” ที่ประเมินด้วยสายตาผู้อื่น จึงจะรักษาสมดุลชีวิตเอาไว้ได้
ออกจากความยากจนเวลาได้แล้ว ต้องตัดสินว่าในบรรดางานที่กำลังทำอยู่ งานไหนต้องทำ งานไหนไม่ต้องทำ หรือทำให้น้อยลงได้บ้าง
หยุดโฟกัสของชีวิตต้องหันมาที่ “ฉัน” อย่างชัดเจน ยิ่งเรามีความเคารพเพลงสูงก็ยิ่งจะดี
ชีวิตถ้าดูใกล้ๆ คือโศกนาฏกรรม ถ้าดูไกลๆ คือเรื่องตลก
จำเอาไว้ว่าไม่ว่าใครก็ไม่อาจมีชีวิตที่มีเพียงความสุขอย่างเดียวได้
หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอย่างไร้สาระ แล้วมองตัวเองด้วยเกณฑ์ที่ตัวเราสร้างขึ้นมาเอง
คนอื่นจะไม่ยอมรับก็ไม่เป็นอะไร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการใช้ชีวิตเราก็ไม่ควรหวังให้คนอื่นมายอมรับ แต่ควรยอมรับตัวเราเองแล้วลงมือทำ
อย่ายอมเปลี่ยนทั้งหมดเพราะ บางอย่างไม่เคยเปลี่ยนแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว
ถ้าเราไม่อาจเปลี่ยนคนๆ นั้นได้หรือไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับเขาได้ แสดงว่าเขาไม่ใช่คนสำคัญสำหรับเรา
การยึดติดกับความสัมพันธ์ทั้งที่ไม่สามารถเปลี่ยนฝ่ายตรงข้ามได้และไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับเขาได้ นอกจากไม่ดีต่อสุขภาพจิตของเราเองแล้ว ยังอันตรายต่องานด้วย
จงพูดคำว่า No อย่างมั่นใจ ควรตัดสินด้วยตัวเองว่าอะไรที่ไม่จำเป็นต้องทำ จากนั้นก็ไม่ต้องทำสิ่งนั้น
“การนั่งใจลอย” เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาและป้องกันภาวะหมดไฟ (หมายถึง การไม่คิดอะไรเลยหรือไม่คิดในเรื่องไร้สาระ)
วิธีที่จะช่วยให้สมองได้พัก 1. ฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง 2. อ่านอะไรง่ายๆ หนังสือส่งผลให้สมองได้สงบนิ่งมากขึ้น
สำหรับสมดุลชีวิตแล้วสิ่งสำคัญคือการกำจัดนิสัยชอบเลื่อน ลงทุนเวลา 2 นาทีแล้วก้าวออกไปหางานที่เราตั้งใจจะทำ
พลังชีวิตเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆ รอบตัว
รักษาสมดุลชีวิตไม่ได้จดจ่อกับแค่งานหรือชีวิตเท่านั้น บางครั้งต้องต่อสู้กับงานเพื่อใช้ชีวิต และบางครั้งก็ต้องใช้ชีวิตเพื่องาน
การนอนหลับให้เต็มอิ่ม ช่วยเพิ่มผลิตภาพได้ดีกว่าการอดนอนเพื่อทำอะไรบางอย่างให้มากขึ้น
วิธีที่มีประสิทธิภาพและง่ายที่สุดในบรรดาวิธีสร้างความสมบูรณ์ให้กับชีวิต ทั้งยังส่งผลดีต่องานด้วยคือ “การนอนหลับได้ดี”
สามารถสร้างจุลภาคในชีวิตด้วยดิจิตอลดีท็อก กำหนดเวลาใช้งานเพื่อให้สมองได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
การพูดคำว่า “yes” เป็นเรื่องง่าย แต่เราต้องรู้เอาไว้ว่าเมื่อพูดคำว่า “no” เราจะมีพลังและมีเวลาให้กับตัวเองมากกว่า
การรักษาสมดุลชีวิตนั้นนอกจากชีวิตส่วนตัวของเราแล้วเรื่องงานก็ต้องไม่พลาด ต้องปรับงานให้ตรงกับตัวเราด้วย
ช่องทางซื้อหนังสือ
ซื้อได้ที่ (affiliate):
– Shopee: https://shope.ee/40FwODmHtU
– Lazada: https://s.lazada.co.th/s.l7qKE?cc
