แนะนำ 10 เทคนิควิธีเริ่มต้นอ่านหนังสือ ให้รักการอ่านมากขึ้น

วิธีเริ่มต้นอ่านหนังสือ - pexels element digital 1370295 1 - ภาพที่ 1

เราเป็นคนที่อ่านหนังสือทุกวัน และเรามีความสุขที่ได้อ่านหนังสือ เพราะการอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่สนุกและน่าสนใจ เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์และเป็นการพัฒนาทักษะด้านการเรียนรู้และการมองโลกในแง่ดี

การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้คนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หนุ่มสาว ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ การอ่านหนังสือช่วยเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ และทักษะต่างๆที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

การอ่านหนังสือไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้ แต่ยังเป็นการเพิ่มความสุขให้กับชีวิตของเราด้วย การอ่านหนังสือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาตนเอง มันช่วยเราเปิดโลกในแง่มุมมองใหม่และเพิ่มความรู้ให้กับชีวิตของเรา หนังสือคือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเราเปิดโลกและเข้าใจเรื่องราวในมุมมองใหม่ มันช่วยเราพัฒนาการเรียนรู้และทักษะการคิด การอ่านหนังสือเป็นการเดินทางไปยังโลกใบใหม่ที่ไม่เคยไปมาก่อน มันช่วยเราพัฒนาจิตใจและเข้าใจโลกในมุมมองใหม่ ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีในการสร้างความสุขในชีวิต ลองเริ่มต้นด้วยการอ่านหนังสือเล่มดู

นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการติดต่อสื่อสารและความคิดสร้างสรรค์ เพราะการอ่านหนังสือจะเปิดโอกาสให้เราได้พบเห็นความคิดและสิ่งที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน สำหรับผู้เริ่มต้น ที่อยากเริ่มอ่านหนังสือ เรามีวิธีเริ่มต้นอ่านหนังสืมาแชร์ อาจมีขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อช่วยให้การอ่านเป็นไปอย่างราบรื่นและเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น

10 วิธีเริ่มต้นอ่านหนังสือ

  1. เริ่มต้นอ่านที่ระดับความยากต่ำ: ควรเริ่มต้นอ่านที่ระดับความยากต่ำ เช่น เลือกหนังสือที่มีเนื้อหาธรรมดา ไม่ซับซ้อน เพื่อช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
  2. อ่านแบบต่อเนื่อง: ควรอ่านตามลำดับเนื้อเรื่อง และอ่านจนจบเรื่อง เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาได้ถูกต้องและไม่สับสน
  3. อ่านออกเสียง: อ่านออกเสียงเนื้อหาเพื่อช่วยจำคำและทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น
  4. เลือกหนังสือที่เหมาะสม: การเลือกหนังสือที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากจะช่วยให้เรามีความสนใจและความกระตือรือร้นในการอ่านมากขึ้น ดังนั้น ควรเลือกหนังสือที่เป็นเรื่องที่เราชอบ หรือเป็นเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ เช่น หากคุณชอบอ่านนวนิยาย ก็เลือกหนังสือที่มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจและตรงกับสไตล์การเขียนที่คุณชอบ
  5. กำหนดเป้าหมายการอ่าน: ก่อนที่จะอ่านหนังสือควรกำหนดเป้าหมายว่าจะอ่านหนังสือนี้เพื่อศึกษาเรื่องอะไร หรือเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในด้านใด ต้องการอ่านหนังสือเพื่อศึกษาเรื่องใหม่ๆ หรือต้องการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพ จากนั้นควรตั้งเป้าหมายการอ่าน เช่น ต้องการอ่านหนังสือเสร็จใน 1 สัปดาห์ โดยอ่าน 1 ชั่วโมงต่อวัน
  6. อ่านในช่วงเวลาที่มีสบาย: ควรเลือกเวลาที่มีสบายในการอ่าน เช่น หลังเลิกงาน หรือวันหยุด เพื่อให้สามารถอ่านได้อย่างสนุกสนานและไม่ต้องตีความ
  7. สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: การอ่านหนังสือควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น อยู่ในที่ที่เงียบสงบ และมีแสงสว่างเพียงพอ นอกจากนี้ อาจเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น หูฟัง หรือไฟส่องสว่าง
  8. ฝึกทักษะการอ่าน: ควรฝึกทักษะการอ่านเพื่อปรับปรุงความสามารถในการอ่านได้อย่างดีขึ้น และเพื่อเพิ่มความสนุกในการอ่าน
  9. อ่านด้วยความสนใจ: การอ่านหนังสือควรอ่านด้วยความสนใจ ไม่ควรบังคับให้ตนเองต้องอ่านเรื่องที่ไม่สนใจ
  10. อ่านด้วยความตั้งใจ: เมื่อเริ่มอ่านหนังสือ ควรมุ่งมั่นในการอ่านโดยไม่มีสิ่งที่จะมาทำลายความตั้งใจ เช่น โทรศัพท์ ทีวี หรืออื่นๆ ที่อาจจะทำให้สับสนหรือสมาธิหลุด
  11. ขอดีแถม เมื่ออ่านจบแล้ว ควร “สรุปและนำไปใช้”: เมื่ออ่านเสร็จแล้ว ควรทำการสรุปเนื้อหาที่อ่านเข้าใจ และหากนำไปใช้ได้ ก็ควรนำไปใช้

การไม่ชอบอ่านหนังสือไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ดี แต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามการอ่านหนังสือมีประโยชน์มากมายทั้งต่อบุคคลและสังคม โดยหนังสือมักจะเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีประโยชน์มากๆ เช่น การเรียนรู้เรื่องราวจากประวัติศาสตร์ หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยพัฒนาตัวเองและเตรียมความพร้อมในการเผชิญกับอนาคต

หากท่านไม่ชอบการอ่านหนังสือ อาจจะลองทดลองหาหนังสือที่เป็นเรื่องที่ท่านสนใจหรืออยากทำความรู้จักดูก่อน นอกจากนี้ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสนใจในการอ่านหนังสือ เช่น การอ่านหนังสือเล่มน้อยๆ ในแต่ละครั้ง การอ่านหนังสือช่วงเวลาว่างๆ เช่น การรอรับบริการหรือการเดินทาง การรับฟังหนังสือเสียงหรือการอ่านหนังสือออนไลน์ ที่จะช่วยทำให้การอ่านหนังสือของท่านเป็นเรื่องที่สนุกและตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น