[รีวิว] สรุปเนื้อหาหนังสือ “ครีมชั้นบน” [เล่มที่ 60 ของปี 2023]

ครีมชั้นบน - Lumii 20230609 103727379 - ภาพที่ 1

หนังสือที่จะรีวิวในบทความนี้คือ หนังสือ “ครีมชั้นบน” เล่มที่ 60 ของปี 2023 ที่อ่านจบ เป็นหนังสือที่ทางสำนักพิมพ์ DOT Books ส่งมาให้อ่าน นิยามของคำว่าครีมชั้นบนในความหมายของหนังสือเล่มนี้คือ ความภาคภูมิใจ ความฝันสูงสุด การเป็นตัวเอง ความสำเร็จ และความพอใจ

เพราะความเป็นที่สุด และความสุขของแต่ละคนแตกต่างกัน หนังสือเล่มนี้จึงเปรียบเสมือนเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ระหว่างคุณกำลังตามหาดาวเหนือของตัวเอง

หากอยากประสบความสำเร็จ เราต้องลอยตัวขึ้นไปเป็นคนเก่งระดับครีมเท่านั้น ถึงจะถูกมองเห็นและถูกช้อนตัวไป

หากอยากเป็นครีมชั้นบน ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ถนัด และมีคนเห็นค่า คุณก็ต้อง ปั่น ขยันและไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

ถ้าอยากเป็น “ครีม” ที่ผู้คนมองเห็นชัดเจนคุณต้องมี “อัตลักษณ์” หรือ “ภาพจำ” มีความคงที่ของตัวเองให้รู้ว่าคุณเป็นใคร

ซื้อหนังสือ

สรุปข้อคิดจากหนังสือ ครีมชั้นบน

คนไม่ได้รักและหลงใหลแบนภายในวันเดียว อย่าท้อที่จะสร้างตัวตนของเราขึ้นมา อย่าเพิ่งหมดกำลังใจถ้าปีแรกไม่มีใครสนใจ

การสร้างผลงานให้ดีไม่ใช่การตะมี้ตะบันสร้างผลงานอย่างไม่รู้ทิศทาง แต่คือการวางแผนให้ชัดขึ้นอีกนิดแล้วค่อยลงมือทำ

ยิ่งเราเสพข่าวของคนอื่นมากเท่าไหร่ เรายิ่งไกลจากการเป็นตัวเองมากเท่านั้น

ชีวิตไม่ได้มีเรื่องราวน่าตื่นเต้นทุกวัน ทุกความสำเร็จที่เราเห็นบนโลกโซเชียลล้วนถูกคัดสรรจน “ความธรรมดา” ถูกมองข้าม

บางครั้งเราอาจตั้งเป้าหมายสูงไป เราอาจต้องการสร้างความแตกต่างมากเกินไป จนแบกรับความคาดหวังเหล่านั้นไว้บนบ่าตัวเองมากเกินไป จนทำให้ไม่กล้าทำในสิ่งที่ดูแสนจะธรรมดา เพราะมันอาจจะดู “ธรรมดาเกินไป”

ความธรรมดาของคุณ อาจเป็นความพิเศษที่คนอื่นชอบ และตามหาอยู่ก็เป็นได้

หากเราอยากไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตเราต้องเป็นมาสเตอร์ในการ “จุดไฟ” พลังให้ตัวเอง

รักษาตัวเองให้ดี อย่ากดดันตัวเองเยอะ ค่อยๆ วางแผนค่อยๆ ทำ

เวลาที่เรา “ไม่ได้ทำงาน” สำคัญพอๆ กับเวลาที่เรา “ทำงาน” หากเรามีความสุขการนั่งทำงาน 4 ชั่วโมงก็สามารถสร้างผลงานได้เทียบเท่ากับ 8 ชั่วโมง

ชีวิตของพวกเรา ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน เราทำงาน ก็เพื่อจะได้มีชีวิต

หน้าที่ของเราในการทำงานให้ดี คือการเตือนสติให้ไม่ลืมว่าชีวิตคืออะไร

บางสิ่งที่เราเสียใจที่สุด อาจไม่ใช่คำพูดคนอื่นที่พูดกับเรา แต่อาจเป็นสิ่งที่เราทำลงไปหลังจากนั้น ด้วยความไม่ตั้งใจต่างหาก

เวลามีปัญหา อันดับแรกคือให้เวลากับมันก่อน อย่าเพิ่งตอบโต้ เก็บไว้คิดก่อน

เวลาเราอยู่กับปัญหาตลอดทั้งวัน เราอาจมองไม่เห็นอะไรใหม่ๆ เพราะสมองมันช้ำแล้ว ลองออกไปใช้ชีวิต หันไปทำนู่นนี่ ที่สำคัญคือนอนลงไปสักคืนตื่น ตื่นเช้ามาจะเห็นทางแก้หายให้ดีขึ้น อย่างน้อยก็ลดแรงปะทะที่เกิดขึ้นในใจตัวเอง

การมีความคิดเป็นของตัวเอง ทำให้เราตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

ถ้าอยากเจอกับคนแบบไหน อยากล้อมรอบตัวเองด้วยคนแบบใด เราก็ต้องเป็นคนแบบนั้นก่อน

ต้นทุนของคนเราไม่เท่ากัน แต่ไม่ได้แปลว่าคนที่ไม่มี จะใช้ชีวิตที่ดีไม่ได้

ในชีวิตจริงไม่มีใครมาตามงาน มาให้คะแนนการศึกษาที่เรียนเอง คนที่ควรรู้ว่าตัวเองมาไกลแค่ไหน ก็คือตัวคุณเอง

ความกว้างใหญ่ของอนาคตที่เรามีให้ตัวเองได้ อยู่ภายในสมองและจินตนาการ ส่วนชีวิตที่เราต้องการ ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่น หัวใจ และวินัย

เราอาจทำได้ทุกอย่าง แต่เราไม่อาจเก่งได้ทุกเรื่อง จงปล่อยให้มืออาชีพทำงานที่เขาถนัด

เมื่อเรารู้จักตัวเองมากพอ ก็จะรู้ว่างานไหนเราควรทำเอง งานไหนเราเราพอทำได้ถ้าเรียนเพิ่มอีกนิดหน่อย และงานแบบนี้ทำไม่ได้ไปให้มืออาชีพทำเถอะ

สิ่งสำคัญในการทำงานคือการเก็บ contact มืออาชีพที่เราได้พบเจอ เพื่อต่อยอดในอนาคต

เมื่อไหร่ที่รู้สึกหมดพลัง ลองหาสิ่งที่สำคัญกับคุณ แล้วเรียนรู้จากสิ่งนั้นดู

อย่าใช้ชีวิตโดยไม่ได้กำไรจากมัน อย่าลืมคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ อย่าลืมยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง หมุนคอ ผ่อนไหลลงบ้าง วางสิ่งที่หนักๆ ลงบ้าง

ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นจากการครอบครองเพียงอย่างเดียว แต่คือการได้เห็นของสวยงามอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับมัน

ความสุข คือการได้รู้ว่าจุดไหนที่พอดีกับตัวเราเอง

เรื่องของมุมมองเป็นเรื่องที่บอบบาง การจะอธิบายอะไรยากๆ ให้คนที่ไม่เข้าใจ เราอยู่เงียบๆ เพื่อรักษามิตรภาพดีกว่า

ถ้าคุณอยากสำเร็จแค่ไหน ลองคูณภาพความลำบากเข้าไปเท่านั้น คูณความสามารถในการแบกรับความทุกข์ ความเครียด เข้าไปด้วย แล้วลองประเมินดูว่าคุณต้องการมันจริงไหม

เงินมากับปัญหาเสมอ ลูกค้าถือเงินมาให้เราแก้ปัญหา ยิ่งเงินมากปัญหาก็ยิ่งใหญ่ตาม

ทุกความสำเร็จมีราคาเสมอ และราคาที่จ่ายออกอาจไม่ใช่แค่เงินหรือสุขภาพ แต่เป็นชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่สะสมมาทั้งชีวิต

เมื่อหมดวันลงในเวลาค่ำคืน การนอนหลับลงด้วยความสบายใจและมีความสุข อาจเป็นความสำเร็จในรูปแบบหนึ่ง ที่ใครหลายคนอยากแลกกลับมาก็ได้

ชื่อเสียงและเงิน ไม่ใช่เครื่องการันตีให้คนๆ นึงเป็นสุขได้ตลอดไป

“งานหนัก” ไม่เคยทำให้คนน้อยใจจนถึงขั้นลาออก แต่เป็นเรื่อง “คน” ต่างหากที่ไม่ใส่ใจปัญหา จนทำให้เขาต้องเดินจากไป

ในทุกๆ เรื่อง ผู้คนไม่ได้จดจำสิ่งที่ “ได้ยิน” แต่จดจำในสิ่งที่เขา “รู้สึก”

การให้ที่ดีที่สุดที่หลายคนมองข้ามเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตานั่นก็คือ การสนับสนุน การให้กำลังใจ การเข้าอกเข้าใจ การไว้วางใจ

ของขวัญที่เราสามารถมอบให้คนสำคัญ อาจจะเป็นแค่การบอกว่า “เราสนับสนุนและเชื่อใจเขา” เหล่านี้จะทำให้คนที่คุณรักรู้สึกติดปีกบินได้ รู้สึกอุ่นใจแม้ต้องเผชิญกับเรื่องอะไรก็ตาม

“ความเข้าใจ” ในภาพที่เราอยากเป็นจะทำให้เราทำสิ่งที่มีความหมายสำหรับตัวเองได้ทุกวัน แม้ระหว่างทางอาจต้องพบเจอความทุกข์ แต่มันคือทางผ่านของความสุขที่เราเลือกเอง

หลายครั้งสิ่งที่มีมูลค่ามากกว่าเงินคือความจริงใจ เพราะมันเป็นสิ่งที่หายากแม้แต่เราเองก็อยากได้รับจากคนอื่นเช่นเดียวกัน