ครั้งนึงเคยติดน้ำตาล ติดหวาน จนอยากกินของหวานตลอดเวลา

อยากกินของหวานตลอดเวลา

เราเคยเป็นคนนึงที่เคยติดหวาน ติดน้ำตาล ประกอบกับเป็นคนที่ชอบกินแป้งมาก ติดชนิดอยากกินของหวานตลอดเวลา เลยทำให้เรากินขนมหวาน ๆ เยอะ และบ่อย กินทีละเยอะ เยอะในที่นี้คือ กินโดนัท 12 ชิ้น คนเดียว หมดใน 1 วัน (จริงๆ ไม่ถึงวันหรอก 3-4 ชั่วโมงก็หมดล่ะ) เพื่อนที่สนิทต่างรู้ดี และมันคือเรื่องปกติของเรา

ประกอบกับเป็นคนชอบกินแป้งมากๆ ขนมหวานจึงเป็นของโปรดของเรา แล้วเราก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอด ของหวานประเภทเค้ก ขนมปัง ขนมไทยต่างๆ รวมถึงพวกของหวานประเภทน้ำก็คือของโปรดเลย มีความอยากกินของหวานตลอดเวลา เป็นงี้ตลอดหลายปี (ช่วง 24-29 ปี)

และยิ่งกินน้ำตาลเยอะ คุณจะยิ่งหิวบ่อยขึ้น เพราะน้ำตาลจะเข้าไปทำให้ฮอร์โมนเลปตินออกมาน้อยลง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมาเมื่อเรารู้สึกอิ่ม มันเลยทำให้เรากินแล้วไม่อิ่มสักที

โชคดีคือร่างกายเผาพลาญเยอะ ทำให้เราไม่อ้วน แต่พออายุแตะ 30 ปี ร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนไป ประกอบกับผลตรวจเลือด ค่าน้ำตาลในเลือดไม่ค่อยดี เราจึงตัดสินใจลดน้ำตาล วิธีการลดน้ำตาลของเราก็ไม่ใช่การหักดิบนะ เพราะเรารู้ตัวว่าเรานั้นติดหวาน หรือติดน้ำตาล ถ้าหักดิบร่างกายคงปรับตัวไม่ทัน

วิธีการลดน้ำตาล

เริ่มจากลดปริมาณในการกินของหวานหรือน้ำตาล เช่น เคยกินโดนัท 12 ชิ้นใน 1 วัน ก็ลดจำนวนมันลง ก็กินแค่ 4 ชิ้นในหนึ่งวัน ลดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อัดลมก็ไปกินน้ำอัดลมที่ไม่มีน้ำตาลแทน แล้วก็ลดปริมาณในการกินให้น้อยลง

พวกอาหาร หรือ ก๋วยเตี๋ยว ที่ชอบปรุงหวานหวาน เราก็เริ่มจากลดปริมาณในการเติมน้ำตาล จนสุดท้ายก็คือไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย

ส่วนชานมไข่มุก หรือ พวกชาชงต่าง ๆ ส่วนตัวเราไม่ได้ชอบกินอยู่แล้ว ส่วนนึงเพราะเราแพ้นมวัวเราเลยไม่กินพวกนี้อยู่แล้ว หากกินก็สั่งหวานน้อยแทน และไม่ใส่นมวัว

ดึงสติอ่านฉลาก

อีกวิธีวิธีการลดน้ำตาล คือ เวลาจะกินอะไร จะอ่านฉลากและก็สังเกตปริมาณน้ำตาลในฉลากมันช่วยให้เรามีสติในการที่จะกินอะไรมากขึ้น

เปลี่ยนจากคนอยากกินของหวานตลอดเวลา 

ปัจจุบันเราไม่ใช่คนติดน้ำตาล หรือ ติดหวานแล้ว ของหวานก็ไม่ค่อยได้กินแล้ว ถ้ากินก็จะกินในปริมาณน้อย ๆ แทน กินเพื่อให้หายอยาก หรือถ้าต้องกินจริง ๆ ก็แบ่งกินหลายมื้อแทน มันช่วยให้เราได้กินปริมาณเท่าเดิม แต่ยืดจำนวนมื้อออกไป

ส่วนน้ำหวาน พวกน้ำอัดลมอะไรพวกนี้เราไม่ได้กินแล้ว อันนี้น่าจะเป็นผลดีของไมเกรนเพราะว่า เรากินแล้วมันรู้สึกมีผลต่อการปวดไมเกรนเราเลยไม่กินพวกน้ำหวานแล้วก็น้ำเย็นน้ำแข็งอะไรงี้ หมอที่เราไปฝังเข็มรักษาไมเกรนไม่แนะนำให้กิน เราเลยหยุดไป

เราเปลี่ยนจากคนติดหวาน ติดน้ำตาล มาเป็นคนที่ไม่กินเลยก็ได้เป็นเวลานาน ๆ มันก็ใช้เวลาปรับตัวอยู่ แต่มันเป็นผลดีกับเราในระยะยาวทั้งในเรื่องสุขภาพแล้วก็ไม่เปลืองตังค์ด้วย

ใครที่ชอบกินของหวานเยอะ ๆ อยากให้ลองตรวจสุขภาพดูโรคเบาหวานไม่ได้ไกลตัวอย่างที่คิด แล้วการเป็นโรคเบาหวานและมันต้องรักษานานมาก ต้องกินยาเยอะผลกระทบชีวิตระยะยาว ทางที่ดีอย่าเป็นตั้งแต่ตอนแรกดีกว่า