มาถึงการหนังสือเล่มที่ 53 ของปี 2023 ที่อ่านจบกันแล้ว หนังสือเล่มที่จะรีวิวให้ดูเล่มนี้ทางสำนักพิมพ์ NANMEEBOOKS ส่งมาให้อ่าน ชื่อหนังสือว่า อวยตัวเองยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด BRAG BETTER ได้มาพร้อมกับหนังสือ FUTURE SKILLS ทักษะอนาคตที่ AI ทำแทนคุณไม่ได้ (ณ ตอนที่กำลังเขียนรีวิวก็อ่านเล่มนี้พอดี)
หนังสือ อวยตัวเองยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด เป็นหนังสือให้แนวคิดเกี่ยวกับการให้เครดิตตัวเอง นำเสนอตัวเอง ให้คุณรู้สึกภูมิใจในตัวเองและงานของคุณเอง ซึ่งในหนังสือเรียกว่า โอ้อวด ซึ่งจะมีวิธีการที่เราจะอวยหรือโอ้อวดตัวเองในแบบต่างๆ เป็นเหมือนการเชื่อมสะพานระหว่างตัวคุณกับสปอร์ตไลท์ของคุณ เขียนโดย Meredith Fineman (เมเรดิท ไฟน์แมน) ผู้แปล ณัชชา บัวกลิ่น
เป้าหมายของการ อวยตัวเองยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด คือการให้วิธีคิดแก่คนให้รู้ว่าความสำเร็จของคุณนั้นมากพอ เป็นคุณนั้นก็มากพอแล้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่จุดไหนในอาชีพของคุณ ความสำเร็จของคุณก็ควรค่าแก่การแบ่งปัน
การโอ้อวดคือการ “ให้เครดิตตัวเอง” และ “หยิบโทรโข่งออกมา” การอวดผลงานของเราเองนั้น คือ “การผดุงความยุติธรรมให้กับตัวเอง” ซึ่งจำเป็นต่อการอยู่รอด
การไม่กลัวที่จะพูดอย่างฉะฉานเกี่ยวกับตัวคุณ ชีวิตคุณ และความสำเร็จของคุณ ไม่เพียงทำให้คุณรู้สึกดีเท่านั้นแต่ยังเกิดผลกระทบเชิงบวกระยะยาวต่อผู้ฟังอีกด้วย
นักเขียนไม่ได้เขียนหนังสือ อวยตัวเองยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด เพียงเพราะอยากมอบกำลังใจให้คุณอย่างเดียว แต่อยากให้คุณรู้สึกดีในการโอ้อวดว่าคุณสบายใจที่จะตะโกนความยิ่งใหญ่ของคนออกมาจากดาดฟ้า และจะได้ช่วยเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนของคุณอวดให้เก่งด้วย
รีวิวสรุปเนื้อหาหนังสือ “อวยตัวเองยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด BRAG BETTER”
ไม่ใช่แค่ความสำเร็จที่ควรค่าแก่การพูดถึงแต่การแบ่งปันความสำเร็จอย่างมีกลยุทธ์และมีความคิดจะช่วยให้คุณไปได้ไกลกว่าในหน้าที่การงานและชีวิต
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนทำงานเงียบแต่ไม่ง่อยหรือกลุ่มคนที่ดิ้นรนต่อสู้และต้องการความช่วยเหลือในการเสาะหา ความรู้สึก การยอมรับ การแปลความหมาย และการแสดงความสามารถอันน่าทึ่ง คุณสมบัติและความสำเร็จต่างๆ หรืออีกนัยหนึ่งหนังสือเล่มนี้เขียนเพื่อพวกเรา 99.99% ที่รู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดถึงตัวเอง
ถ้าคุณทำงานสำเร็จแล้ว แต่ไม่รู้วิธีพูดชักจูงคนอื่นให้สนใจงานได้ คุณก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเงียบแต่ไม่ง่อยแล้วล่ะ
อย่าหวังว่างานของคุณจะพูดแทน นี่คือปัญหาใหญ่และเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเราทุกคน งานของคุณจะไม่พูดแทน ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคุณว่าคุณทำอะไรใช้เวลาทำงานไปเท่าไหร่ ถ้าคุณไม่แบ่งปันงานของคุณกับคนอื่นก็ไม่มีใครทำ ถ้างานของคุณเป็นงานด้านเทคนิคขั้นสูงหรือเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย คุณต้องเรียนรู้ที่จะพูดถึงมันอย่างชัดเจนให้ผู้อื่นฟัง เพื่อความสำเร็จของคุณจะได้เป็นที่ยอมรับ
ตามผลการวิจัยใน ค.ศ 2012 มีคนกลัวการพูดในที่สถานะมากกว่าคนกลัวตายซะอีก
การอวดให้เก่งคือ
– ให้ข้อเท็จจริงส่องประกายแล้วบอกความจริงเกี่ยวกับงานที่คุณทำ
– มีความมั่นใจในตัวเองและมั่นใจในเสียงของตัวเองอย่าให้ความกังวลหรือการตระหนักรู้ตัวเองมาขวางทาง
– พูดออกมา ไม่เฉพาะเวลาที่ต้องพูดเท่านั้น แต่จงพูดหากมันเป็นประโยชน์ต่อคนรอบตัวและช่วยให้เสียงของคนอื่นดังขึ้นด้วย
– ส่งสารที่เราฝึกฝนมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางออฟไลน์หรือออนไลน์ คือการรู้ว่าคุณจะพูดอะไร คุณจะพูดอย่างไร และคุณจะทำอะไรกับสิ่งที่คุณพูด
– โอ้อวดให้กระชับและชัดเจน คิดคำศัพท์ที่เฉพาะเจาะจงและติดหูเพื่ออธิบายตัวคุณและความสำเร็จของคุณ
– รู้ว่าคุณคือใครและคุณอยากให้คนอื่นมองคุณอย่างไร
– มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการอวด รู้ว่าคุณอยากให้การอวดนี้ไปถึงจุดไหน และการเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้มีความหมายต่อคุณและอาชีพคุณอย่างไร
– ขอให้คนอื่นสนับสนุนคุณอย่างชัดเจนด้วยความตั้งใจและความรู้สึกขอบคุณ คำขอที่นุ่มนวลจะช่วยให้คนอื่นช่วยคุณได้รวมถึงนำทางคุณให้ผ่านมันไปได้
การอวดให้เก่งขึ้นไม่ใช่
– การบิดเบือนหรือพูดเกินจริง จงแบ่งปันสิ่งที่ควรทำและอย่าโกหก
– น้ำหนักเสียงที่ปราศจากการโฟกัส การส่งเสียงดังโดยไร้กลยุทธ์ไม่มีประโยชน์อะไรเลย รังแต่จะสร้างความเสียหายและทำให้คุณไปไม่ถึงเป้าหมาย
– เอาแต่ขอให้คนอื่นสนับสนุนคุณโดยไม่ตอบแทน การโอ้อวดคือการให้และรับ ซึ่งส่วนที่ดีที่สุดมาจากการที่คุณเข้าใจถึงความสำคัญในการให้โอกาสคนอื่นได้โอ้อวดด้วย
– การห้ามไม่ให้คนอื่นเปล่งประกายไปกับคุณ มีพื้นที่มากพอสำหรับความสำเร็จที่พิเศษของทุกคน ความอิจฉามีแต่ละชุดรั้งคุณไว้
– ใช้คำพูดทำร้ายผู้อื่น การดึงคนอื่นให้ต่ำลงหรือดูถูกคนอื่น เพื่อให้การโอ้อวดตัวเองของคุณได้รับการยอมรับจะทำลายเป้าหมายทั้งหมด
– การคิดในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเองและงานของคุณ เป็นการตัดคุณสมบัติที่เกี่ยวกับตัวคุณออกและทำให้คุณรู้สึกแย่
คุณจะได้เพิ่มวัฒนธรรมความภาคภูมิใจที่ดีจากการอวดให้เก่งขึ้น การปลูกฝังความสามารถในการเปล่งเสียงและโอ้อวดเพื่อตัวเองและคนอื่นๆ คือการฝึกตัวเองให้พูดถึงความสำเร็จ ทักษะ และคุณสมบัติของคุณ โดยไม่ลดทอนคุณค่าของงานเหล่านั้นหรือทำทีอ่อนน้อมถ่อมตนแบบผิดๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่พึ่งเริ่มต้นในอาชีพการงานของคุณ หรือเป็นผู้นำทางความคิดอันมั่นคงที่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว การอวยตัวเองยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด จะช่วยให้คุณเปลี่ยนบทสนทนาเกี่ยวกับความสำเร็จของคุณและตัดเสียงนกเสียงกาที่น่ารำคาญออกไปได้สำเร็จ
การทำงานหนักเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของสิ่งที่เราต้องทำเพื่อให้คนเห็นงานของเรา การหาถ้อยคำที่ใช่ การรู้สึกดีต่อตัวเอง การแสดงความมั่นใจออกมา ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งในงานของคุณทั้งสิ้น
การโอ้อวดสร้างขึ้นจากความสำเร็จทั้งในและนอกออฟฟิศได้ คุณเป็นคนทั้งคนไม่ใช่หุ่นยนต์ของบริษัท นั่นหมายความว่าสิ่งที่คุณใส่ลงไปในงานของคุณ ชุมชนของคุณ ความใส่ใจภายนอกของคุณ ความปรารถนาที่อยากจะพัฒนาชีวิตของคนรอบตัวคุณ หรือสิ่งใดก็ตามที่ทำให้คุณสบายใจ บ่อยครั้งงานอดิเรกของคุณก็ควรค่าต่อการโอ้อวดเหมือนกัน มันจะส่งผลกระทบได้มากกว่าการพูดถึงข้อเท็จจริงหรือตัวเลขเสียอีก
บางครั้งการรู้จักวิธีการอวดให้เก่งคือการรู้ว่าไม่ควรพูดเรื่องอะไร กลยุทธ์ของการอวดให้เก่งนั้นรวมไปถึงการเลิกนิสัยการตัดอำนาจด้วยวาจาใดๆ ที่คุณมีหรือการทำลายตัวเองด้วยความรู้สึกเชิงลบต่อตัวเอง การอยู่ใกล้กับคนที่เหยียบย่ำตัวเองอยู่เรื่อยนั้น นอกจากจะเป็นเรื่องยากแล้ว ยังบ่อนทำรายงานของคุณอีกด้วย
หลักสำคัญในการอวดให้เก่งคือการปลูกฝังความสามารถในการพูดสิ่งที่คุณคิดและพูดสิ่งที่คุณต้องการโดยไม่อ้อมค้อม การพูดออกมาตรงๆ แบบเจ็บแต่จบมีประสิทธิภาพมากกว่าการพูดเรื่องไปเลี่ยงมา
ความเห็นของคนอื่นไม่ใช่เรื่องของคุณ ความจริงที่ว่าสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับเราไม่ใช่เรื่องของเรา หลายๆ คนไม่รู้จักเราด้วยซ้ำ เวลาพวกเขาจะนึกถึงเราก็ต้องสร้างความคิดเกี่ยวกับเราขึ้นมาเอง เป็นมโนภาพของพวกเขาเองทั้งหมดเลย มันไม่เกี่ยวกับเราเลยสักนิด คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักคุณ พวกเขาจะสร้างตัวคุณขึ้นมาในเวอร์ชั่นจากมุมมองส่วนตัวของพวกเขาเอง สิ่งที่คุณรู้ว่าเป็นความจริงเกี่ยวกับตัวเราเองสิเป็นเรื่องสำคัญ
