เดินทางมาถึงหนังสือเล่มที่ 58 ของปี 2023 เรียบร้อย เล่มนี้ชื่อว่า แด่วัย 30 ผู้คิดมาก ซึ่งเคยเขียนแนะนำไว้แล้ว พออ่านจบก็ขอหยิบมารีวิวให้ชมกันตามเคย เล่มนี้เป็นหนังสือจากสำนักพิมพ์ส่งมาให้อ่าน เขียนโดย คิมอึนจู แปลโดย ชลภัทร ภัทรฤทธิกุล สำนักพิมพ์ O2 ในเครือ DOT Books
วัย 30 เป็นวัยที่ผ่านการทำงานมาได้สักพักนึง หากคิดว่าอายุการทำงานจนถึงเกษียณคือ 60 ปีเราเพิ่งเดินทางมาได้ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย ยังเหลือเวลาที่เราต้องทำงานอีกหลายสิบปี
เราทุกคนล้วนถูกคาดหวังจากสังคมรวมถึงความคาดหวังในตัวเอง มันบีบคั้นให้เราต้องแข่งขันและพัฒนาตัวเองตลอดเวลา คาดหวังว่าวัย 30 จะต้องมีพร้อมทุกอย่าง ยิ่งเรามองไปยังคนที่เก่ง ทำให้เรายิ่งไม่มีความมั่นใจที่จะก้าวต่อไปและกลายเป็นจมกับความหวาดกลัว ทั้งที่ยังมีสิ่งที่เราต้องเรียนรู้อีกมากมาย
ผู้เขียนหนังสือแด่วัย 30 ผู้คิดมาก ที่อาจดูเป็นคนเก่งและน่าชื่นชม เพราะเธอได้เข้าทำงานกับบริษัทระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น motorola, qualcomm, samsung และ google เธอกลับบอกว่าทุกคนล้วนมีความหวาดกลัวกันทั้งนั้น รวมถึงเธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง
เธอมีช่วงเวลาที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำถูกต้องหรือเปล่าหวาดกลัวที่จะผิดพลาดแต่เธอก็ลงมือทำไปก่อนทั้งๆที่ยังไม่พร้อม และค่อยพยายามหาทางทำให้สำเร็จ ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่ลืมกลับมาพัฒนาตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมรับโอกาสใหม่ๆ หนังสือเล่มนี้จึงเขียนขึ้นมาโดยการกลั่นกรองจากประสบการณ์ของเธออาจจะไม่ใช่ how to ที่ชี้นำทางสู่ความสำเร็จได้แบบเร่งด่วน แต่ก็เป็นเหมือนหนังสือที่คอยเป็นเหมือนเพื่อนคอยผลักดันเราให้กล้าที่จะทำอะไร
ในหนังสือ แด่วัย 30 ผู้คิดมาก ที่กำลังรีวิว คิมอึนจู (ผู้เขียน) บอกกับเราว่า สิ่งที่พวกเราทำอยู่ไม่จำเป็นต้องใช้ความพร้อมมากเท่าที่คิด สิ่งที่พวกเราต้องการไม่ใช่ความเพียบพร้อมไร้ที่ติ แต่เป็นใครสักคนที่คอยช่วยเหลือผลักดันในวันที่เราลังเล รวมถึงความกล้าหาญที่จะเริ่มต้นเองด้วย
รีวิวสรุปเนื้อหาหนังสือ แด่วัย 30 ผู้คิดมาก
ไม่ใช่เราคนเดียว ไม่ได้มีแค่เราที่ดิ้นรนและยืนหยัดอดทนอยู่ตรงนี้ แค่ได้รู้ว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่ลำบากก็เป็นพลังใจที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว
เคล็ดลับการทำงานได้อย่างยืดยาวคือการที่เราสนุกไปกับการทำงานได้ ว่ากันว่าอัจฉริยะไม่สามารถเอาชนะผู้เพียรพยายามได้ และผู้เพียรพยายามก็ไม่สามารถเอาชนะผู้ทำงานด้วยความสุขได้เช่นกัน
สิ่งที่ควรเก็บไว้คือคำชมและเรื่องราวแง่ดีเกี่ยวกับตัวเรา สิ่งที่ควรทิ้งไปคือขยะหัวใจ
วิธีสร้างความแข็งแรงให้หัวใจ คือ บันทึกคำขอบคุณ บริโภคสิ่งที่มีประโยชน์ต่อจิตใจ และกระจายความสุขออกไป
7 วิธีเป็นอิสระจากความคิดแง่ลบคือ เติมเต็มเวลา รู้เท่าทัน การไม่ให้ความหมายกับคำพูดคนอื่นมากเกินไป ต่อสู้กับอดีตและเอาชนะมันให้ได้ เขียนบันทึก ออกเดินทางท่องเที่ยว ออกกำลังกาย
ความล้มเหลวนั้นเจ็บปวด แต่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นต่อการเติบโต อย่าปล่อยให้ความล้มเหลวลงเหลือเป็นบาดแผล หากมีบาดแผลจงรักษาทันทีวิเคราะห์ให้ดีว่าทำไมจึงเกิดแผลนี้ได้ ค้นคว้าวิธีที่จะไม่ทำให้เกิดแผล สะบัดมันทิ้งไปแล้วลุกขึ้น
คนเราจำเป็นต้องหยุดในเวลาที่ควรจะหยุด ไม่ว่าจะเป็นตอนที่รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก ตอนที่ใจหายลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม หรือตอนที่นอนไม่หลับติดต่อกันหลายคืน เราต้องรู้ทันสัญญาณฉุกเฉินของร่างกายตัวเองให้ได้
“ถ้าไม่ได้ก็แล้วไป” คาถาวิเศษที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา
ใช้เวลาคิดให้น้อย ลงมือปฏิบัติให้เร็ว การได้ลองทำแล้วตัดสินใจไม่เลือก กับการไม่ลองทำจึงไม่มีโอกาสเลือกนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ลองทำดูก่อน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นค่อยคิดอีกทีวันหลัง
อย่าเอาตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับความล้มเหลว เป็นธรรมดามากที่คนเราจะรู้สึกกลัวการเผชิญหน้ากับตัวเองที่ล้มเหลว แต่ว่าความล้มเหลวเป็นเพียงหนึ่งในปรากฏการณ์มากมายบนโลก ไม่ใช่ “ตัวตนของเรา” แต่อย่างใด
ความล้มเหลวคือกระบวนการไม่ใช่ผลลัพธ์ ความล้มเหลวเป็นเพียงผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปจากผลลัพธ์ที่เราคาดการณ์หรือต้องการ เพียงแค่เรารู้ว่าตัวเองได้เรียนรู้อะไรจากกระบวนการนั้นบ้าง ได้พัฒนาอะไรบ้าง
ความกลัวเป็นความรู้สึกที่ทรงพลัง เราจึงต้องรอบคอบและควบคุมจิตใจตัวเองอยู่ตลอดเวลา หากเราไม่ปล่อยให้มันอยู่เหนือการควบคุมและจัดการให้ดี ความกลัวก็กลายเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้ตัวเราได้
เหตุผลที่ล้มเหลวร้อยครั้ง ยังดีกว่าความสำเร็จ 1 ครั้ง เพราะความล้มเหลว 100 ครั้งสร้างความชำนาญให้เราได้มากกว่าความสำเร็จเพียงครั้งเดียว
สิ่งที่เราจำเป็นต้องมีในชีวิตการทำงานไม่ใช่แค่วิทยุอันแข็งกล้าในสายงานของตัวเอง แต่ยังต้องมีสีสันของตัวตนและมีเอกลักษณ์ อาจเป็นคนที่ผสมผสานกลมกลืนได้ดี คนที่มีภาวะผู้นำ คนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกสนุกสนานได้เสมอ คนที่พูดเก่งคารมคมคาย คนที่ปลอบใจได้ดีเยี่ยม คนยิ้มเก่ง คนที่ชอบคิดอะไรประหลาดๆ เป็นต้น
อย่าส่งต่อความกังวลของตัวเอง สิ่งที่ต้องระวังมากสุดคือพฤติกรรมของตัวเองเมื่อรู้สึกกังวล ไม่ว่าจะสับสนโลเล พูดจาวกวน หงุดหงิดโมโห พูดขึ้นเสียง
ช้าก็ไม่เป็นไร แค่เป็นตัวเองให้ถึงที่สุด อย่าฝืนทำสิ่งที่ไม่เป็นตัวเอง
ไม่ต้องเป็นที่หนึ่ง แต่ไปให้สุดเส้นชัย
ยินดีกับความสำเร็จของใครสักคนจากใจจริง
อย่าตัดสินใครตามอำเภอใจ
จงอย่ากลัวและเดินไปตามที่ใจต้องการ