หนังสือ โทษที วันนี้ชีวิตฉันสำคัญที่สุด เป็นหนังสือความเรียงขนาดสั้นพร้อมภาพประกอบแสนอบอุ่น ที่บอกให้ผู้อ่านทุกคนอย่าให้เสียงคนอื่นมากลบเสียงหัวใจของเรา เป็นแบบที่เราต้องการนั่นแหละดีที่สุดแล้ว เนื้อหาในหนังสือบอกเล่าความคิดความรู้สึกของผู้เขียนเมื่อต้องเผชิญกับเรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวัน ขณะที่ในใจก็สงสัยไปด้วยว่า “ฉันเป็นคนแบบไหนกันแน่นะ” แล้ว “ฉันควรใช้ชีวิตต่อไปยังไงดี”
เป็นธรรมดาที่ตัวเราจะมีความคิดมาก ขี้กังวล อ่อนแอเหงา เศร้า หมดกำลังใจ และเห็นแก่ตัว บางครั้งก็เหนื่อยจนรู้สึกไม่อยากจะทำอะไรต่อ แต่เราดันอยู่ในโลกที่ทุกคนพร่ำบอกให้เราพยายาม มีคนมากมายบอกให้เราอย่าหยุด อย่าท้อ เกิดมาทั้งทีก็ต้องสู้ แต่บางมุมหนึ่งในใจเราก็รู้สึกว่า “แล้วจะสู้ไปไหน” ทำไมเราต้องพยายามขนาดนั้นด้วย พยายามโดยที่บางทีเราก็ไม่รู้เลยว่าเราอยากทำมันหรือเปล่า ทำไปเพียงเพราะว่าคนอื่นบอกว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นดี
หนังสือเล่มนี้ช่วยบอกและอยู่เป็นเพื่อนเรา เราไม่ต้องเก่งไม่ต้องดีก็ได้ เราไม่ต้องเป็นอย่างอื่นเลยก็ได้ อย่าไปฟังคนอื่นมากนัก ให้ความสำคัญกับความรู้สึกตัวเองมากกว่านี้ เพราะสุดท้ายคนที่ต้องใช้ชีวิตนี้ก็คือตัวเราเอง
เราอยู่ในสังคมที่มองว่าความหดหู่คือสิ่งไม่ดี สังคมหล่อหลอมให้ตัวเราต้องชอบความสนุกสนาน ต้องสนุกสิ ต้องมีความสุขสิ อย่าหดหู่เลย เพราะความหดหู่คือสิ่งไม่ดี ความคิดแบบนี้คือการทรมานตัวเองในอีกรูปแบบหนึ่ง การกดดันให้ตัวเองต้องมีความสุขอาจเป็นอีกหนึ่งชื่อของความทุกข์
ยังไงซะชีวิตก็ไม่มีคำตอบตายตัวอยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าความสุดยอดเท่ากับชีวิตดีเสียหน่อย ถึงแปลกไปบ้างแต่ทุกส่วนประกอบที่ตั้งใจเลือกมาก็ผสมผสานทำให้กลายเป็นเราแบบนี้
เป็นธรรมดาที่คนเราจะนึกถึงสิ่งที่ตัวเองไม่มี
คนไม่มีเพื่อนอิจฉาคนที่มีเพื่อนเยอะ
คนตัวเตี้ยอิจฉาคนตัวสูง
คนที่ได้คะแนนไม่ดีอิจฉาคนเรียนเก่ง
อิจฉาคนที่มีมากกว่าเรา
แต่สุดท้ายแล้ว การมีเพื่อน 100 คน เป็นเรื่องที่โชคดีหรือเปล่า ?
ถ้ามีแค่เราที่มีชีวิตอยู่ถึง 200 ปีเป็นเรื่องโชคดีไหม ?
ถ้ามีแค่เราที่ตัวสูงเกิน 3 เมตร ก็โชคดีใช่ไหม ?
ถ้ามีแค่เราที่ IQ เกิน 300 นั่นคือโชคดีหรือเปล่า
บางทีคำว่าธรรมดาอาจเป็นอีกชื่อหนึ่งของความสุขก็ได้นะ
คนเรามักคิดว่าตัวเองยังขาดอะไรบางอย่าง ก็เลยอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มศักยภาพของตัวเรา ตั้งแต่ก่อนจะรู้ว่าตัวเราเป็นคนแบบไหน คนเราก็มากดดันตัวเองว่าทำไมเราทำไม่ได้เหมือนคนอื่น
ตอนนี้สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราไม่ใช่การให้กำลังใจว่า “ทำได้น่า พยายามอีกนิดนึงก็ได้แล้ว”
แต่เป็นความกล้า ที่จะไม่ทำสิ่งที่ไม่อยากทำต่างหาก
มนุษย์เราน่ะ ไม่ต้องคาดหวัง ก็ไม่ต้องผิดหวัง ไม่ต้องคาดเดา ก็ไม่ต้องกังวล ความสัมพันธ์ของคนเราไม่จีรัง อย่าเอาชีวิตไปทุ่มเทให้คนอื่นมากเกินไป ถ้ามีเวลาทำแบบนั้นล่ะก็ เอามาทุ่มเทให้ตัวเองดีกว่า “การจะได้เจอใครก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของเรา ไม่ใช่ชีวิตของเราขึ้นอยู่กับคนที่ได้เจอเสียหน่อย”
แม้เนื้อหาในหนังสือ โทษที วันนี้ชีวิตฉันสำคัญที่สุด ไม่ได้ให้คำตอบของคำถามที่ถามไว้ในตอนแรก แต่ทางผู้เขียนก็ทำให้เราได้เห็นว่า ไม่ว่าเราจะเป็นคนแบบไหนสิ่งที่สำคัญคือเราต้องยอมรับและรักตัวเองให้ได้ มันจึงไม่สำคัญว่าเราจะตอบคำถามที่ว่า “เราเป็นคนแบบไหนกันแน่” แล้ว “เราควรใช้ชีวิตต่อไปยังไงดี”
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนเพื่อนที่คอยปลอบใจอยู่ข้างๆ ในวันที่เรารู้สึกเหนื่อยล้าหรือสับสนหลงทาง เมื่อเราเข้าใจความต้องการของตัวเองและใจดีกับจิตใจของเราเท่าที่ทำได้แล้ว เราจะมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น และที่สำคัญอย่าให้เสียงคนอื่นมากลบเสียงหัวใจของเรา แค่เป็นแบบที่เราต้องการนั่นแหละดีที่สุดแล้ว