หนังสือ How to Make Work Not Suck เมื่อเส้นทางการทำงานโรยไปด้วยเปลือกทุเรียน โดย Carina Maggar สำนักพิมพ์ WeLearn เล่มนี้เป็นหนังสือเล่มที่ 39 ของปี 2023 ที่อ่านจบ ต่อจาก “โทษทีไม่ว่างเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร” เล่นนี้ได้รวบรวม 120 คำแนะนำสุดแสนจะจริงใจแก่มนุษย์ทุกคนที่ต้องทำงาน เพราะเส้นทางการทำงานของเราไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ บางครั้งก็มีเปลือกทุเรียนร่วงหล่นตามทาง ทำให้เราแสบๆ คันๆเจ็บจี๊ด หรือถึงขั้นปวดระบมกันได้เลย หนังสือเล่มนี้จะมอบสารพัดคำแนะนำให้กับเรา สามารถเดินข้ามอุปสรรคบนเส้นทางการทำงานได้อย่างปลอดภัย
เมื่อทุกออฟฟิศเต็มไปด้วยคนเฮงซวย
เมื่อของกินในตู้เย็นหายไปอย่างปริศนาอยู่บ่อยๆ
เมื่อ LINE จากหัวหน้าชอบเด้งขึ้นมานอกเวลางาน
เมื่อจมปลักอยู่กับงานที่ไม่ได้อยากทำ
ลองหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน จะพบว่าไม่ได้มีเพียงเราที่ต้องไปเชิญปัญหาเหล่านี้ยังมีคนอีกมากมายที่เจอปัญหาเดียวกันกับเรา
ในโลกของการทำงานมีกฎมากมายที่หลายคนรู้แต่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้เป็นเรื่องราว หนังสือเล่มนี้จึงเขียนกฎเหล่านั้นเอาไว้เพื่อให้เราจะได้ไม่ต้องประสบปัญหาแบบเดียวกันกับผู้เขียน คิดซะว่าผู้เขียนได้ทุกข์ทรมานแทนเราผู้อ่านไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งการกระทำผิดพลาด การล้มเหลว การใช้เล่ห์เหลี่ยม การตลบตะแลง รวมถึงการพูดและทำในสิ่งที่ผิด
ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่และเราเองก็คงไม่รู้เช่นกัน ทุกคนล้วนแสร้งว่าตัวเองรู้ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้า พ่อแม่มือใหม่ หรือนายกรัฐมนตรี แต่ที่จริงพวกเขาต่างคิดหาทางรับมือกับสิ่งต่างๆ เอาหน้างาน
เราเองก็ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างถึงจะทำงานได้ดีถ้า เรากำลังมีอาการของคนที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งจริง หรือรู้สึกว่าความสามารถไม่ถึง ขอให้รู้ว่าไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่หลบไปร้องไห้ในห้องน้ำตอนพักกลางวัน สุดท้ายแล้วมันก็แค่เป็นเรื่องของการแสดงให้แนบเนียนที่สุดเท่านั้นเอง
ทุกคนล้วนมีหัวสร้างสรรค์แม้แต่เราเองก็ด้วย ความคิดสร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งยิ่งใหญ่หรือไม่ใช่อะไรที่อยู่ไกลเกินเอื้อม เรามักคิดว่าคนที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นผู้ที่โชคดีที่ได้รับพรพิเศษ แต่ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่สิ่งลึกลับหรือเวทมนต์ เราไม่จำเป็นต้องถอดสูตรรับหรือรหัสดาวินชีเพื่อปลดล็อคความคิดสร้างสรรค์ออกมา
บริษัทที่แทนตัวเองว่าครอบครัวมักกำลังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นรหัสลับซึ่งบอกว่า “ทุกคนกำลังทุกข์ใจกันอยากลับๆ และวัฒนธรรมการทำงานของเราเป็นพิษ” การใช้คำคำนี้เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการหลอกลูกจ้างให้ทำงานฟรีๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ และอยู่ทำงานเกินเวลาที่กำหนดในสัญญาจ้างในนามของครอบครัวที่ซื่อสัตย์
แต่จริงๆแล้วธุรกิจไม่มีอะไรเหมือนครอบครัวเลยเพราะ
– งานไม่ใช่สิ่งถาวร
– คุณถูกไล่ออกและแทนที่ได้ทุกเมื่อ
– คุณได้รับค่าจ้างเพื่อแลกกับทักษะ
– คุณต้องปฏิบัติตามมาตรฐานบางอย่างที่กำหนดเอาไว้
การที่บริษัทแทนตัวเองแบบนั้นอาจจะดูเป็นการเชื้อเชิญให้ผู้คนอยากเข้ามาทำงานแต่อันที่จริงมันทั้งไม่เหมาะสมและไม่ฉลาดเอาเสียเลย
อยากหาเงินไม่ใช่เรื่องผิด เราทุกคนรู้ว่าเงินทำให้เรามีอิสระ รู้สึกมั่นคง ได้เที่ยววันหยุดอย่างสุดเหวี่ยง กินมื้อเย็นสุดหรู และเป็นเจ้าของบ้านหลังงาม แต่ถ้าความปรารถนาของคนมีแค่การหาเงินเพียงอย่างเดียว คุณก็จะไล่ตามเงินอยู่เสมอ แม้ในยามที่เงินในสมุดบัญชีของคนมีเลข 0 ต่อท้ายหลายตัวแล้วก็ตาม
สิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 คือความสุข ซึ่งคุณหาซื้อจากห้างสรรพสินค้าไม่ได้ ถ้าคุณไม่มีความสุขกับตัวเองคุณจะไม่มีวันมีความสุขเลย แม้ว่าจะขับ lamborghini ก็ตาม
โลกเต็มไปด้วยคนเฮงซวย ทุกออฟฟิศมีคนเฮงซวย คนประเภทนี้มีนิสัยไม่น่าคบแถมยังดูหัวร้อนตลอดเวลา เพราะชีวิตล้วนเต็มไปด้วยคนเฮงซวย ความท้าทายคืออย่าเป็นคนเฮงซวยเสียเอง
เราเป็นป้ายโฆษณามีชีวิตของตัวเอง คนนึงอีกคนใช้เวลาพริบตาเดียวในการออกความเห็นเกี่ยวกับคุณโดยที่คุณยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ การดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองสะท้อนให้เห็นว่าคุณให้คุณค่าตัวเองมากเท่าไหร่และมีความสามารถมากแค่ไหน
ควรจำไว้ว่า เงินทำให้เรามีความสุขมากขึ้นจนถึงจุดที่เราจะไม่ต้องกังวลแต่เรื่องเงิน จากนั้นความสุขของเราก็จะไม่เพิ่มตามจำนวนเงินอีกต่อไป
คุณไม่ได้มีความจำดีเหมือนช้าง คุณควรจดบันทึกทุกอย่างเอาไว้เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งความคิดตอนอาบน้ำ ตอนทำอาหาร ตอนว่ายน้ำ หรือตอนเล่นโยคะ คุณไม่ได้มีความจำดีเหมือนช้างและคุณจะลืมสิ่งต่างๆ ไม่มีอะไรน่ารำคาญไปมากกว่าบริการที่ไม่จดรายการอาหารที่คุณสั่งเพื่ออวดว่าความจำของตัวเองดีแค่ไหน ซึ่งพวกเขามักจำผิดบ่อยๆ ดังนั้น จงอย่าเป็นอย่าบริกรขี้อวด
หัวหน้าแย่ๆ มีอยู่เกลื่อนกลาด เพียงเพราะพวกเขาเป็นหัวหน้าของเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านั้นคือแบบอย่างหรือผู้นำที่ดีหรอกนะ หัวหน้าแย่ๆ ทำให้ลูกน้องไม่มีความสุขแล้วบรรยากาศในการทำงานเป็นพิษ ดังนั้นถ้าออฟฟิศของคุณมีปัญหาคุณก็ชี้นิ้วไปโทษพวกระดับสูงได้เลย การมีอำนาจเปลี่ยนให้พวกเขาเป็นคนบ้าอำนาจที่ชอบควบคุมคนอื่นเพื่อสนองความพึงพอใจของตัวเอง
คุณมีหู 2 ข้าง ถ้าคุณไม่มีอะไรที่สร้างสรรค์หรือสำคัญจะพูดในที่ประชุม ก็อย่าพูดออกมา คุณจะตักตวงสิ่งต่างๆได้มากกว่าที่คิดจากการหุบปากของตัวเองไว้ ไม่ว่าคุณจะชอบเสียงของตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม
งานของคุณคือ การทำสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ คุณต้องวางไอเดียเพ้อฝันของคุณลงซะ และพูดในสิ่งที่ต้องพูดด้วยวิธีที่ดีที่สุด ถ้าคุณจะแย้งคุณต้องทำเหมือนว่ากำลังชี้แจงคดีในศาล ซึ่งข้อโต้แย้งของคุณต้องสมเหตุสมผล และผ่านการวิเคราะห์มาแล้วโดยไม่นำอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง