เมนูวันนี้ หมูนุ่มผัดซีอิ๊วกระเทียมพริกไทย จานละ 150 บาท สั่งน้ำเปล่าไม่เอาน้ำแข็ง และข้าวเปล่า 1 จาน ส่วนพริกน้ำปลา ถ้าอยากกินต้องแจ้งพนักงานนะ เขาไม่ได้ให้พริกน้ำปลามาแต่แรก (จะเรียกพริกน้ำปลา หรือน้ำปลาพริก ดีหล่ะ) ระหว่างรอเราก็หยิบหนังสือ ช่างหัวคุณสิครับ! มาอ่านบทนำ (พึ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้อ่านบทนำ แต่เนื้อหาอ่านจบ เขียนรีวิวไปเรียบร้อย)
อย่างที่บอกตอนแรกว่า หนังสือ ช่างหัวคุณสิครับ! : Ignore Everybody พูโถึงชีวิตคนทำงานที่ต้องใช้ไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน แต่บางครั้งการมีไอเดียที่ดีนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และหลายไอเดียดีๆ มักจะถูกต่อต้านมากๆในช่วงแรก เนื้อหาในหนังสือส่วนมากจึงเน้นย้ำในการให้มุมมองว่า อย่าให้ใครมาอนุมัติไอเดียของเรา เลิกฟังความเห็น ความคิด คำพูดของคนอื่น แล้วเปลี่ยนไอเดียของคุณเองด้วยการลงมือทำมันซะ
ในซอยหมู่บ้านเรา จะมีลุงวินมอเตอร์ไซค์คนนึงที่มีบุคลิกตัวใหญ่ๆ ขับรถโดยการนั่งเบาะช่วงต้นๆ ของเบาะ แล้วเหลือพื้นที่วางช่วงเบาะเยอะมาก และแกจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ที่ขับรถค่อนข้างช้า ขับรถไม่เปลี่ยนเกียร์ จะขับเกียร์เดียวตลอดทาง
ตุ้ยหมูกระทะ เจริญนคร 16 เดินทางมายากกว่าสาขาอื่นนะ สาขาตลาดพลูนั่งวินไป 40 บาท ใกล้ BTS กว่าสาขานี้ แต่ร้านแคบกว่ามาก แคบกว่าสาขาโพธิ์นิมิตรด้วยนะ ร้อนกว่า อับกว่า
หนังสือตื่นรู้กับ Google Search Inside Yourself มีรูปแบบการฝึกจิตหลายแบบที่ทำตามได้ง่าย และได้ผลจริง ผ่านการพิสูจน์จากพนักงานกูเกิลหลายคนมาแล้ว ว่ามันสามารถทำให้คนเรียน คนที่ฝึกรู้จักตัวเองมากขึ้น รู้เท่าทันความคิด อารมณ์และความรู้สึกต่างๆ ของเราได้ ช่วยเปลี่ยนวิธีมองโลก และวิธีการตอบสนองต่อปัญหาที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
รสชาติก๋วยเตี๋ยวทองสมิทธ์ค่อนข้างแตกแตกต่างจากรสชาติก๋วยเตี๋ยวเรือที่เคยกิน น้ำชุปขนๆเลย หอมกลิ่นเนื้อ รสชาติกลมกล่อม ไม่โดดเปรี้ยว หรือเค็ม อย่างที่บอกเลือกความเผ็ดได้ เนื้อที่ให้มาก็เกรดดีเลย นุ่มมาก เนื้อตุ๋นนุ่มๆ หอมๆ ละลายในปาก แต่ลูกชิ้นรู้สึกว่าเฉยๆ ส่วนตัวไม่ชอบลูกชิ้นของร้านนี้
เราเองกำลังฝึกฝนการสร้าง Self-Esteem ง่ายๆ ซึ่งก็มาจากการพบนักจิตบำบัด และฝึกฝนตามคำแนะนำของนักจิตบำบัด จิตแพทย์ และผผู้เชียวชาญต่างๆ จนปัจจุบันเราเริ่มมี Self-Esteem สูงพอๆ กับช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะเจอสถานการณ์แย่ๆ แล้ว เลยเอามาแชร์ให้ฟังถึงวิธีการว่ามีอะไรบ้าง ที่เราควรฝึก และเพิ่มมัน
แชร์ประสบการณ์การพบนักจิตบำบัด เขาจะมีคำถามถามเรื่องเรื่อยๆ ตรงๆ ควรจะคิดและตอบตามตรง ไม่มีประโยชน์ที่จะจ่ายเงินไปเพื่อโกหกหมอ เริ่มต้นด้วยการพูดคุย เราเล่าถึงปัญหาของเรา ตรงนี้สำคัญมาก เพราะสิ่งที่เราพูดจะมี keyword ที่หมอจะจับทางเพื่อช่วยให้คำปรึกษาเรา พยายามพูดสิ่งที่คิด ยิ่งที่หนักใจ ต้องเปิดใจและสะดวกใจมากๆ ที่จะเล่า
ลูกน้องทำงานผิด ทำไมถึงไม่ตำหนิลูกน้อง ? เราไม่คิดว่าการตำหนิ หรือหาคนผิด จะช่วยให้งานมันออกมาดี หรืองานที่ผิดถูกแก้ไข คุณอาจจะสน Who ? และหาคนผิด ซึ่งมันไม่ช่วยแก้ปัญหา
มันสำคัญนะ…คือเราต้องเข้าใจและรู้กับการจัดการอารมณ์ หากเราได้รับการฝึกฝนให้รู้ทันอารมณ์ รู้ว่าอารมณ์ตอนนี้อยู่ในระดับไหน และจะโกรธได้ถึงระดับไหน และโมโหขนาดนั้นทำอะไรได้บ้าง (กริ๊ด โยนสิ่งของ หรือทำร้ายตัวเอง) มันทำให้เราหยุดที่จะพาตัวเองไปถึงจุดนั้นได้
คนทั่วไป เวลามีปัญหา จะสามารถอ่อนแอได้ ร้องไห้ได้ แต่เราไม่สามารถทำมันได้ เวลามีความทุกข์ หรือเสียใจ พบว่าเราไม่สามารถอ่อนแอเท่าคนอื่น ไม่สามารถร้องไห้กับตัวเอง ไม่สามารถร้องไห้ออกมาได้ (แม้แต่ญาติเสีย) แต่เวลาดูหนังเศร้าร้องไห้ได้ งงมาก
พอดีได้เห็นรูปนี้ที่เขาแชร์เรื่อง “คนรักที่ดี” มาในหน้า Facebook เลยอยากเอามาเขียนขยายความ เพราะเราค่อนข้างเห็นต่างจากข้อความในภาพ (ต้องขออนุญาตนำภาพมาอ้างอิง) ส่วนตัวรู้สึกว่าเห็นต่างแทบทุกบรรทัด (แต่เราไม่ได้บอกว่าในภาพนั้นผิดนะ เราแค่เห็นต่างออกไป ใครเห็นด้วยก็ไม่ผิดนะ มันนานๆ จิตตัง)