ทางสำนักพิมพ์ Wish Publishing ได้ส่งหนังสือ เพราะการลาออกไม่ใช่แค่เดินไปบอกเจ้านาย มาให้อ่าน เลยเลือกเล่มนี้มาอ่านเป็นเล่มที่ 79 ของปี 2023 เล่มนี้เขียนโดย มนตรี ร่มโพธิ์ เจ้าของเพจ “งานประจำวันสุดท้าย” หนังสือสำหรับผู้ที่อยากสร้าง “ทางเลือกใหม่” ที่ไม่ต้องหยุดอยู่แค่คำว่า “งานประจำ”
เพราะการลาออกนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เดินไปบอกเจ้านาย แต่อาจจะมีเรื่องราวที่เราคาดไม่ถึงและนึกตามไม่ทันอีกหลายเรื่อง เพื่อให้วินาทีแห่งอิสรภาพของเราเปี่ยมไปด้วยความพร้อม และมั่นใจด้วยหลักประกันที่ว่า อย่างน้อยเราจะไม่พลาดหรือล้มไม่เป็นท่า จนต้องตะเกียกตะกายขอกลับไปทำงานที่เดิม หรือหาทางสมัครงานใหม่ไปเรื่อยๆ
หากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังจะลาออก ลองหยิบหนังสือ เพราะการลาออกไม่ใช่แค่เดินไปบอกเจ้านาย มาอ่าน แล้วคุณจะพบกับแผนการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับความสมหวังจากการลาออก เพื่อไปสู่เส้นทางใหม่ที่งดงามและมีความพร้อม
สรุปข้อคิดจากหนังสือ เพราะการลาออกไม่ใช่แค่เดินไปบอกเจ้านาย
ชีวิตคนเราไม่ได้อยู่บนโลกนี้ยาวนานมากนัก
หลายคนใช้ชีวิตเหมือนคนที่ไม่มีวันตาย
ทุ่มเทให้กับงานจนลืมนึกถึงความสุขของตัวเอง
จนลืมไปว่า เราได้ทิ้งเวลาที่ควรจะได้มีความสุขในปัจจุบัน
เพื่อรอความสุขที่คาดหวังจะเกิดขึ้นในอนาคต
งานประจำไม่ให้อิสระในการเลือกของเรามากนัก
ส่วนน้อยที่เราสามารถเลือกหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน
สถานที่ทำงาน และลักษณะงานที่ต้องทำ
ทุกอย่างล้วนถูกบริษัทกำหนดไว้แล้วว่าต้องเป็นอย่างไร
ถ้าคุณยังทำงานประจำอยู่
และต้องอยู่กับสิ่งที่บริษัทจัดหามาให้
อย่าทิ้งเวลาให้เสียไปเปล่าๆ
ให้เรียนรู้ถึงระบบงานที่เราทำ
หาความรู้ต่างๆ ที่เราได้จากงาน
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ
ในระหว่างที่เราทำงานให้ได้มากที่สุด
งานแต่ละประเภทจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน
แต่ละงานก็จะใช้เวลาที่มีค่าของเราแตกต่างกันไป
ที่สำคัญเราควรใช้เวลาของเราไปกับงาน
ที่มีความหมายกับเรา
หรืองานที่สร้างคุณค่าตรงตามที่เราใฝ่ฝัน
อย่าลืมว่าเมื่อช่วงเวลาที่สุขภาพย่ำแย่ที่สุด
ต่อให้เรามีเงินแค่ไหนก็ไม่สามารถซื้อเวลา
ที่เราจะอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้
สุขภาพเป็นสิ่งที่เรียกคืนไม่ได้
เราควรมีเวลาที่จะรักษาสุขภาพของเราให้ดีที่สุด
เราควรมีเวลาที่จะพักผ่อนให้เพียงพอ
โอกาสที่จะได้ทำในสิ่งที่อยาก
ทำไม่ได้รอเราตลอดเวลา
เมื่อถึงเวลาที่จะได้ทำจริงๆ
ตอนนั้นเราอาจจะไม่มีแรงมากพอ
ที่จะทำในสิ่งที่เราฝันแล้วก็ได้
ลองถามตัวเองดู ว่าสิ่งที่เราทำอยู่ขณะนี้
เรากำลังทิ้งเวลาที่ถือว่าสำคัญที่สุด
ไปกับการทำงานอย่างเดียวหรือเปล่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่
ไม่ได้ตรงตามความต้องการของเราจริงๆ
เรามีเวลาดูแลสุขภาพหรือเปล่า
มีเวลาให้กับคนที่เรารักหรือเปล่า
หยุดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
ถ้าเราทำงานหนักและได้ขึ้นเงินเดือนน้อย
ให้เดินไปถามผู้ประเมินว่า
ทำไมเราถึงได้ขึ้นเงินเดือนน้อย
เรามีข้อผิดพลาดอะไร
ไม่ใช่ชีวิตงานประจำเป็นสิ่งที่ไม่ดี
แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดการชีวิตของเราอย่างไร
เราไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้นานตลอดไป
เราควรเลือกการดำเนินชีวิตของเรา
ว่าอยากให้เป็นอย่างไร
ชีวิตของเราไม่ได้ถูกกำหนดมาว่า
อายุเท่านี้จะต้องทำอะไร
ชีวิตใครชีวิตมัน เรามีอิสระในการเลือก
เราก็ควรเลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมกับเรา
อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไร
ในตอนที่เรามีความรู้สึกแย่
เพราะตอนที่เรามีความรู้สึกแย่
เราจะมีอคติในการตัดสินใจ
อาจทำให้มองข้ามเหตุผลบางอย่างไป
ก่อนลาออกต้องมีการวางแผน
จะช่วยให้เราสามารถ
ลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
การวางแผนที่ดีและคิดแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้า
จะช่วยลดความผิดพลาดลงได้พอสมควร
ลองศึกษาถึงวิถีชีวิตใหม่ๆ
หรือลองทำสิ่งใหม่ๆ ดูก่อน
ถ้าดูแล้วมีความหวัง
ค่อยกลับมาวางแผน
เพื่อเดินทางไปมีวิถีชีวิตใหม่
ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนแปลง
วิถีชีวิตของเราใหม่
เราต้องมีแผนการที่ดีก่อน
และเราสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้
ไม่ต้องรอให้ตัวเองลาออกก่อน
ถ้าเราไม่รู้ว่าความหมายชีวิตของเราคืออะไร
เราก็อาจจะไม่รู้ว่างานประจำที่ทำอยู่
ตอบโจทย์ความหมายของชีวิตเราหรือเปล่า
และถ้าไม่ตอบโจทย์ชีวิตของเราแล้ว
เราควรจะเดินไปทางไหน
มี 2 เหตุผลที่เราควรจะมีอะไรทำ
หลังจากที่เราคิดว่าจะยุติการทำงานประจำแล้ว
คือ เพื่อให้เรารู้สึกว่ายังมีคุณค่า
และเพื่อให้เราได้รายได้
เข้ามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
แม้เราจะเลิกทำงานประจำแล้ว
แต่เราก็ยังคงต้องทำอะไรสักอย่าง
ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเรา
ต้องมีทั้ง active income และ passive income
ไม่ว่าเราจะหารายได้จากทางไหน
ต้องไม่ลืมเรื่องความสุขในการใช้ชีวิต
เพราะการหารายได้
ก็คงเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต
ของเราไปอีกนาน
สำหรับคนที่กำลังจะลาออกจากงานประจำ
เงินสดสำรองจะมีความสำคัญอย่างมาก
เนื่องจากการลาออกจากงานประจำ
จะทำให้รายได้ที่เคยเข้ามาอย่างแน่นอนทุกเดือน
กำลังจะเปลี่ยนเป็นรายได้ที่เดาไม่ได้
