เราควรเปิดโอกาสให้คนคนนึงได้ลองผิด ลองถูก ลองเรียนรู้

ลองผิด ลองถูก

การที่ให้คนคนนึงได้ลองผิด ลองถูก ลองเรียนรู้ แม้เราจะแอบคิดว่านั้นมันอาจจะผิดพลาด แต่เราคิดว่าเขาควรได้รับโอกาสในการได้ลองมัน มันอาจจะ Work ก็ได้นิ เพราะเรารับรู้เรื่องราวและข้อจำกัดของคนคนนั้นเพียงเล็กน้อย หรืออาจจะ 1 ในล้านเรื่องของเขาเลย นั้นหมายความว่า เราไม่ได้รู้จักและมีข้อมูลเหมือนเขาแบบ 100% แต่เราตัดสิน หรือคิดเอาจากสิ่งที่เรามอง สิ่งที่เรารู้

หากเรามองว่าความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น เรา support ไหว ก็ปล่อยให้เขา ค่อย support ตอนที่เขาล้ม โดยที่เราไม่ต้องเป็นเงื่อนไขในการตัดสินใจตอนเขาลงมือทำ หรือแม้แต่เราอาจจะไม่สามารถ support ได้เลย ก็ยังสมควรให้เขาให้ลองผิด ลองถูกบ้าง เราเองก็ไม่สามารถการันตีได้ว่า หากทำตามเราแล้วมันจะ Work จริงๆ แบบ 100%

ส่วนตัวเรามีความคิดว่า การห้าม หรือเอาตัวเองเข้าไปเป็นเงื่อนไขในการตัดสินใจของเขา มันอาจจะทำให้เขาไม่ได้เรียนรู้อะไร การที่ต้องตัดสินใจทำอะไรบนความคิด หรือเงื่อนไขของคนอื่น มันไม่ได้ดีเลย

ที่สำคัญอะไรที่เราเคยเจอมา มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป หรือต่อให้เป็นสิ่งที่เราเคยทำแล้วมัน Work ลองทำอีกทีด้วยวิธีการเดิม มันอาจจะไม่ Work อีกแล้วก็ได้

ต่อให้เราขีดเส้นตรงให้เดินตาม เราก็ยังเดินตรงเป๊ะๆ ไม่ได้ ฉะนั้นผลลัพธ์ย่อมต่างกันออกไป

ควรเปิดโอกาสให้คนคนนึงได้ลองถูก ลองผิด ลองเรียนรู้ ในแบบของเขา ไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะอะไร พี่ น้อง พ่อ แม่ หรือหัวหน้า สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ แนะนำ และคอย support การตัดสินใจเขา

เราว่ามันใช้ได้ทั้งในเรื่อวความสัมพันธ์ พี่น้อง แฟน หรือแม้แต่ในที่ทำงานเองก็ด้วย

และเราอยากให้ลองอ่านเรื่อง ลูกน้องทำงานผิด ทำไมถึงไม่ตำหนิลูกน้อง ? เพื่อได้แนวคิดในการทำงานร่วมกันมากขึ้น