[รีวิว] สรุปข้อคิดจากหนังสือ “จริง ๆ แล้วแมวจรต่างหากเก็บผมมาเลี้ยง” [เล่มที่ 99 ของปี 2023]

จริง ๆ แล้วแมวจรต่างหากเก็บผมมาเลี้ยง

เดินทางมาถึงหนังสือเล่มที่ 99 ของปี 2023 ที่อ่านจบแล้ว เล่มนี้ชื่อว่า จริง ๆ แล้วแมวจรต่างหากเก็บผมมาเลี้ยง เคยเขียนแนะนำไปแล้วด้วย ผู้เขียน อุเมะดะ ซะโตชิ โดยสำนักพิมพ์ Bloom ส่งหนังสือเล่มนี้มาให้อ่าน หนังสือเล่มนี้เขียนโดยอดีตคนรักหมา สู่นักเขียนผู้เป็นทาสแมว เขียนหนังสือด้วยเจตนารมณ์ในการให้ความรู้ในการเลี้ยงแมวจรจัด

สนใจหนังสือเล่มนี้ ซื้อได้ที่
– Shopee: https://shope.ee/3VGp66j8rJ
– Lazada: https://s.lazada.co.th/s.9m3ys?cc

ไม่เอามีคุณสมบัติในการเผยแพร่และดึงดูดความรักจากมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นแมวเลี้ยง หรือแมวจรก็มีสัญชาตญาณที่ใช้ยึดครองโลกได้จริงๆ

ปัจจุบันคนหันมาเลี้ยงและดูแลสัตว์จรจัดมากยิ่งขึ้น การพาไปทำหมันหรือคุมประชากรน้องหมาน้องแมวก็เป็นเรื่องสำคัญ สัตว์จรหลายตัวก็มาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอและเต็มไปด้วยโรค ค่ารักษาสัตว์เลี้ยงก็ไม่ใช่ราคาที่เป็นมิตรต่อใจนัก

หนังสือแมวจรเล่มนี้จะช่วยให้อบอุ่นใจและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทาส ให้แง่คิด และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับผู้อ่านอย่างแน่นอน

สรุปข้อคิดจากหนังสือ “จริง ๆ แล้วแมวจรต่างหากเก็บผมมาเลี้ยง”

ในตัวมนุษย์เรามีหน้ากากกับตัวตนที่แท้จริงรวมกันอยู่อย่างซับซ้อน แล้วสักวันหนึ่งหน้ากากก็คงจะกลายเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราไป สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเชื่ออย่างแท้จริง โดยไม่ลืมตัวตนของตัวเอง

คนที่เก่งมากๆ จะได้รับความเคารพจากคนอื่น คนที่ไม่เก่งมากๆ จะได้รับความรักจากผู้อื่น

เพียงทิ้งความคิดที่ยึดติดว่าต้องเป็นคนเก่ง หรือไม่เก่ง ก็จะใช้ชีวิตง่ายขึ้น

การสร้างภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูดี เป็นการกดดันตัวเองโดยไม่รู้ตัว

หมาคิดว่า “มนุษย์ให้อาหารและลูบหัวฉันด้วยความรัก เขาต้องเป็นพระเจ้าแน่ๆ เลย
แมวคิดว่า “มนุษย์ให้อาหารและลูบหัวฉันด้วยความรัก ฉันต้องเป็นพระเจ้าแน่ๆ เลย”

นรกกับสวรรค์ หรือ ความสำเร็จกับความล้มเหลว ไม่ใช่สิ่งที่แยกขาดออกจากกัน ทั้งสองสิ่งนี้อาจเป็นสิ่งเดียวกัน เพราะความสำเร็จมักอยู่บนความลำบาก และบางครั้งความสำเร็จก็ทำให้รู้สึกทุกข์ได้

เวลาเผชิญปัญหายากลำบาก ถ้าคิดว่าน่าจะรับมือไม่ไหวละก็ ให้ปล่อยวางทันที แล้วควรปล่อยให้เวลาช่วยแก้ไข

การปล่อยให้เวลาผ่านไปอาจช่วยให้ปัญหาเริ่มคลี่คลาย หรืออาจช่วยบรรเทาเพลิงอารมณ์โกรธที่กำลังลุกโชนได้ หลายครั้งการนอนหลับช่วยให้สมองแจ่มใส ทำให้คิดหาวิธีแก้ไขปัญหาได้ในที่สุด แน่นอนบางครั้งการปล่อยให้เวลาผ่านไป ก็ทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้น ควรพิจารณาความเร่งด่วนและลำดับความสำคัญของปัญหา

พื้นที่ที่เหมาะพอดีกับตัวเอง ทำให้อุ่นใจมากกว่าห้องกว้างๆ หรือพื้นที่ขนาดใหญ่ที่อ้างว้างเกินไป

หัวใจจดจำสิ่งสำคัญจริงๆ ได้ การมองดูสิ่งที่เป็นจริงตรงหน้า จะตาตึงมากกว่าการกดชัตเตอร์

การรักษาสุขภาพให้ดี เป็นวิธีประหยัดเงินที่ดีที่สุด

ปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และทุกช่วงเวลาในปัจจุบันก็จะกลายเป็นอดีต และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จึงควรตระหนักถึงความสำคัญของการทำปัจจุบันให้จบลงด้วยดี เพื่ออนาคตต่อไป

ในโลกนี้ไม่มีสิ่งที่สนุก จะสนุกหรือไม่นั่น ขึ้นอยู่กับว่าทำให้สนุกได้หรือไม่

กุญแจสำคัญในการเอาชนะความคุ้นชินกับความเบื่อก็คือ เราทำสิ่งนั้นให้สนุกได้หรือไม่ หรือคิดที่จะทำสิ่งนั้นให้สนุกหรือไม่ ไม่ใช่คิดว่าสิ่งนั้นสนุกหรือเปล่า “ความสนุก” เกิดจาก “การทำให้สนุก”

อย่ากังวลเกี่ยวกับสิ่งรอบข้างมากเกินไป ทุกอย่างไม่ใช่ปัญหาใหญ่มั่นใจในตัวเองไว้ก่อน ฝึกตัวเองไม่ให้หงุดหงิด รำคาญ หรือกังวลกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

ในโลกนี้ไม่มีคนที่เหมือนกัน แต่ละคนมีลักษณะเฉพาะ และนิสัยแตกต่างกันไป

แต่ละคนมีรสนิยมไม่เหมือนกัน รวมถึงความรู้สึกต่างกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติกับทุกคนด้วยวิธีการเดียวกัน

ไม่ใช่ว่ามีเพื่อนมากมายแล้วจะดี สิ่งสำคัญคือคุณภาพของเพื่อน จึงไม่ควรรู้จัก “คนในวงกว้างแบบผิวเผิน” แต่ควรรู้จัก “คนในวงแคบแบบลึกซึ้ง”

ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนก็มีบ่อยครั้งที่ตัวเราสร้างบาดแผลให้อีกฝ่าย และตัวเราเองก็ถูกอีกฝ่ายสร้างบาดแผลให้เช่นกัน

เป็นเรื่องธรรมดาที่เรากับอีกฝ่ายจะเกิดความเข้าใจผิดกัน การกระทบกระทั่งกัน และทะเลาะกันบ้าง จริงอยู่ว่าการยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกันคือสิ่งที่ควรทำแต่บางเวลาความขัดแย้งกันก็ช่วยเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ได้มาก

บางครั้งเรารู้สึกว่าการมีใครสักคนอยู่ในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งที่เมื่อก่อนมันพิเศษสำหรับเรามาก ซึ่งความรู้สึกนี้อาจทำให้เราสนใจและอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับอีกฝ่ายน้อยลงโดยไม่รู้ตัว การหายไปของคนๆ นั้นทำให้เราตระหนักความจริงเรื่องนี้

เราใช้ชีวิตโดยไม่ตระหนักถึงออกซิเจนในอากาศ ทั้งที่เราไม่สามารถใช้ชีวิตโดยปราศจากออกซิเจนได้