[รีวิว] สรุปข้อคิดจากหนังสือ “ทิ้งมันไป แล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง” [เล่มที่ 101 ของปี 2023]

krapalm 20230802 194428

หนังสือเล่มที่ 101 ของปี 2023 ที่อ่านจบชื่อว่า “ทิ้งมันไป แล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง” จากสำนักพิมพ์ DOT Books เขียนโดย คธาพล รพีฐิติธรรม หนังสือเกี่ยวกับการจัดบ้าน ที่มากกว่าแค่เรื่องทำความสะอาดบ้าน เพราะทุกคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ แค่ลองทิ้งสิ่งที่เคยคิดว่าดี เพราะ “การทิ้ง” คือการสอนให้เราฝึกตัดสินใจ เพื่อใช้ชีวิตให้เรียบง่ายขึ้น

สนใจหนังสือเล่มนี้ ซื้อได้ที่:
– Shopee: https://shope.ee/4V9UDOYFnM
– Lazada: https://s.lazada.co.th/s.9qoH7?cc

การกล้าตัดสินใจในสิ่งที่เล็กที่สุด ง่ายที่สุด อย่างการเลือกเก็บหรือทิ้งเสื้อผ้าและหนังสือ ช่วยให้คนเราตัดสินใจสิ่งที่เป็นนามธรรมได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเรียนต่อคณะในฝัน การลาออกจากงานที่ไม่ชอบ การปล่อยวางความผิดหวังและล้มเหลว การบอกลารักเก่าและเริ่มต้นรักใหม่ ทุกคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ แค่ลองทิ้งสิ่งที่เคยคิดว่าดี เพราะ “การทิ้ง” คือการสอนให้เราฝึกตัดสินใจ เพื่อใช้ชีวิตให้เรียบง่ายขึ้น

สรุปข้อคิดจากหนังสือ “ทิ้งมันไป แล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง”

“การทิ้ง” ไม่ใช่การสูญเสีย แต่คือการสร้างตัวตนใหม่ให้คนคนเดิมกล้าเผชิญหน้ากับปัญหา ไม่ยึดติดกับอดีต ไม่หวัดกลัวอนาคต และกล้าอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข

การทิ้งสิ่งของที่เกินความจำเป็นกับชีวิตไม่ใช่เพียงแค่การย้ายข้าวของที่รกหรือทำความสะอาด แต่คือการสำรวจชีวิต ทำให้เราได้รู้ว่า ข้าวของบางอย่างถึงจะลดลงก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราแย่ลง

การเก็บสิ่งของที่มีเรื่องราวเจ็บปวด จะเป็นโซ่ตรวนไม่ให้เราเดินไปข้างหน้า

บางคนที่ชอบซื้อของหรือขยันเก็บ ไม่ได้มาจากความสนใจ หรือความชื่นชอบของตัวเองอย่างแท้จริง

การทิ้งเสื้อผ้าราคาไม่กี่ร้อยบาท หรือการปฏิเสธธุรกิจพันล้าน ล้วนอาศัยนิสัยพื้นฐานเหมือนกัน นั่นคือ การตัดสินใจ

ทางการแพทย์พบว่า ปัญหาบ้านรกไม่ใช่แค่นิสัย หรือความขี้เกียจ ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพจิตใจ ความเครียด ความกังวล หรือค่านิยมทางสังคมที่ทำให้ตัวเองเชื่อว่าการมีสิ่งของมากๆ คือสิ่งดีและปลอดภัย

การถามตัวเองบ่อยๆ ว่า “เราจัดระเบียบบ้านเพื่ออะไร” เป็นคำถามสำคัญที่เราต้องถามตัวเองก่อนจัดระเบียบบ้านทุกครั้ง

“การจัดระเบียบบ้านสำเร็จ” นั้นไม่ใช่ “ผลลัพธ์แท้จริง” แต่คือ “เครื่องมือ” พาคุณไปสู่เป้าหมายที่อยู่สูงกว่านั้น

ควรมีสติรู้เท่าทันการซื้อและสะสม เสพหรือบริโภคแบบไม่มัวเมา มองเห็นคุณค่าแท้จริงของสิ่งของ

คนเราควรยอมรับความบกพร่อง และความไม่สมบูรณ์แบบในตัวเอง และเรียนรู้ว่าชีวิตย่อมผิดพลาดล้มเหลวได้ เราไม่จำเป็นต้องนั่งทนทุกข์กับอดีตที่แก้ไขไม่ได้ และเลือกอยู่กับปัจจุบันจริงๆ

อยากเริ่มจัดระเบียบบ้าน เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ ที่คุณทำได้และตัวเองรับผิดชอบได้ 100% เช่น เริ่มต้นจากการจัดเสื้อผ้าของตัวเองทั้งหมดก่อน เน้นเฉพาะข้าวของของตัวเราเอง

การจัดระเบียบบ้านเหมือนการฝึกวิ่งมาราธอน ไม่มีใครฝึกสำเร็จได้ภายในครั้งเดียว เริ่มจากจัดบ้านตามหมวดหมู่สิ่งของแทน เช่น เสื้อผ้า หนังสือ เอกสาร

เริ่มจากง่ายไปหายาก ลองเริ่มต้นจากเสื้อผ้า ซึ่งเป็นสิ่งของใกล้ตัวมากที่สุด แต่ใช้ความรู้สึกน้อยที่สุด และค่อยๆ มาคัดสิ่งของที่ตัดสินใจยากขึ้นเรื่อยๆ

เรียนรู้ mindset ฝึกมองหาเป้าหมายโดยไม่ต้องรอแรงบันดาลใจ ถามตัวเองว่า “ทำไมต้องจัดบ้าน” และ “การทิ้งให้ประโยชน์อะไร” การมีเป้าหมายชัดเจนจะทำให้คุณเริ่มต้นทิ้งได้อย่างมั่นใจ

การจัดระเบียบบ้านให้สำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากการนั่งคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ปัจจัยสำคัญอีกข้อคือ ลงมือทำ

ไม่มีใครจัดบ้านครั้งแรกแล้วจะสมบูรณ์แบบ 100% ในระยะเวลาอันสั้น เลิกมองว่าเป็นความล้มเหลว ยอมรับความผิดพลาด ให้โอกาสตัวเองเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่คุ้นเคยมากขึ้น

การจัดระเบียบบ้านให้สำเร็จมีขั้นตอนสำคัญอยู่ 3 อย่างคือ การเทรวม คัดสรร และจัดเก็บ (การเทรวมสำคัญมาก เพราะเราจะได้เห็นปริมาณของสิ่งของที่มีอยู่)

เวลาคัดสิ่งของให้ลองเลือกดูว่าของอะไร ที่เก็บไว้ในความทรงจำได้ก็ไม่จำเป็นต้องวางไว้บนชั้น

ข้อควรระวังคือ ห้ามคิดว่าการบริจาคสิ่งของมากๆแล้วจะทำให้บ้านหายรก หากยังมีนิสัยเดิม ไม่ว่าคุณบริจาคสิ่งของมากแค่ไหน แต่ถ้าชอบซื้อของจำนวนมากๆ อยู่ ไม่นานสิ่งของก็จะกลับมาปริมาณเท่าเดิม

คนที่มีชีวิตเรียบง่ายเริ่มต้นจากการรู้รสนิยมของตัวเองว่า ของชิ้นไหนควรมีจริงๆ

สิ่งของจากเราไป ไม่ได้แปลว่าความทรงจำสูตรทอดทิ้ง และหลายครั้งเราเก็บข้าวของบางอย่างโดยไม่ใยดี ซุกเอาไว้หลงลืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าได้ของชิ้นนี้มาอย่างไร แต่เมื่อเราส่งต่อให้ผู้อื่น ความทรงจำกลับอยู่กับเราตลอดกาล

การมีสิ่งของเกินพอดีก็เหมือนไม่มีของชิ้นนั้น