[รีวิว] สรุปข้อคิดจากหนังสือ “รวยมาตั้งแต่จิตใต้สำนึก” [เล่มที่ 95 ของปี 2023]

รวยมาตั้งแต่จิตใต้สำนึก

หนังสือเล่มที่ 95 ที่อ่านจบในปี 2023 ก็คือหนังสือ รวยมาตั้งแต่จิตใต้สำนึก เล่มนี้เคยเขียนแนะนำในเวปไปแล้ว เขียนโดย Kelly Choi (เคลลี ชเว) ผู้แปล วาสนา จันทะทัง โดย อมรินทร์ How To ความน่าสนใจของเล่มนี้คือ ติด Bestseller ในเว็บไซต์ Kyobo Yes24 และ Aladin ทันทีที่วางจำหน่าย

เคลลี ชเว (Kelly Choi) ผู้เขียน เป็นมหาเศรษฐีระดับท็อปของอังกฤษที่มีเพียง 0.1% เธอได้รับการยกย่องจาก Financial Times ทั้งยังมียอดผู้ชมในยูทูบกว่า 10 ล้านวิว

หนังสือกล่าวถึงหลักคิดเกี่ยวกับการเงินที่เรียกว่า “Wealthinking” จับต้องได้ อ้างอิงมาจากประสบกรณ์ตรงของผู้เขียน สอดแทรกพลังบวกและกำลังใจในการใช้ชีวิต

สนใจหนังสือเล่มนี้ ซื้อได้ที่
– Shopee: https://shope.ee/7zj4WvyQQj
– Lazada: https://s.lazada.co.th/s.97eV9?cc

สรุปข้อคิดจากหนังสือ “รวยมาตั้งแต่จิตใต้สำนึก”

หากคุณอยากเป็นคนรวย จงเรียนรู้ผ่านความคิดของคนรวย เพราะมีเพียงคนที่ประสบความสำเร็จในสาขานั้นอย่างแท้จริงเท่านั้น ที่จะถ่ายทอดสารที่มีความหมายได้

ความร่ำรวยต้องมาจากความคิดที่อย่างลึกลงไปจนถึงจิตใต้สำนึก

ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนอยากเป็นคนรวย แต่สาเหตุที่ไม่ใช่ว่าใครๆ จะเป็นคนรวยได้ เป็นเพราะไม่ใช่ทุกคนที่รู้เครื่องมือของคนรวย

หากต้องการเป็นคนรวย ก็ต้องเรียนรู้วิธีการเป็นคนรวย หากต้องการหาเงิน ก็ต้องเรียนรู้วิธีการหาเงิน

หนังสือเล่มนี้คือหนังสือที่จะเล่าถึงความคิดที่เปิดกว้าง ในการทำความเข้าใจและเรียนรู้รากเหง้าความคิดของผู้ที่สร้างความมั่งคั่งขึ้นมา

ทิ้งนิสัยไม่ดี 3 อย่าง ทิ้งนิสัยการดื่มเหล้าที่ทำให้สติกระเจิง ทิ้งการเล่นสนุกที่กลับก่อนชีวิตทีละเล็กทีละน้อย ทิ้งปาร์ตี้ที่ปล้นเวลาชีวิต

ต้องเลิกนิสัยที่กัดกร่อนชีวิตของเรา เราควรใช้เวลาไปกับสิ่งที่ทำให้เราเติบโต แม้จะเติบโตเพียงแค่วันละ 1% แต่หากเติบโตทุกวัน ภายใน 100 วัน คุณก็จะเติบโตถึง 100%

หาเมนเทอร์ โรลโมเดล หรือผู้เชี่ยวชาญ แล้วขอคำแนะนำจากพวกเขา รวมถึงทำความเข้าใจเคล็ดลับความสำเร็จของพวกเขา มีวิธีเรียนรู้โดยไม่จำเป็นต้องพบหน้ากันโดยตรง เช่น อ่านจากหนังสือของพวกเขา ติดตามผลงานของพวกเขา

หากคุณต้องการให้คนช่วยเหลือและดึงดูดโชคเข้ามา ก็ต้องแก้ไขความตั้งใจและทัศนคติที่มีต่อวิกฤต ต้องทิ้งความคิดในแง่ลบที่ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อเผชิญกับวิกฤต แล้วมุ่งมั่นไปยังเป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้เท่านั้น

คุณอยากรวยใช่หรือไม่ หากใช่ คุณต้องสละความคิดที่ผิดเกี่ยวกับคนรวยและเงินออกก่อน ทิ้งภาพคนรวยและเงินแบบลบๆที่ได้เรียนรู้มาทั้งหมด

ความรู้สึกเป็นบ่อเกิดของการกระทำและการกระทำเป็นบ่อเกิดของผลลัพธ์ การเป็นคนรวยหรือมีเงินเยอะเป็นเพียงผลลัพธ์เท่านั้น

รวยหรือจนไม่เกี่ยวกับการหาเงินได้มากๆ เพราะถ้าหาเงินได้มากก็ย่อมใช้จ่ายมากตามไปด้วย หากจะดูว่าเป็นคนรวยจริงหรือไม่ ต้องดูว่าทรัพย์สินสุทธิที่เหลือจากการใช้เงินมีอยู่แค่ไหน

การควบคุมค่าใช้จ่ายคือประตูสู่การเป็นคนรวย

สิ่งสำคัญที่สุดคือการออมแล้วสร้างเงินทุนตั้งต้น เพื่อเอาไปลงทุนในสิ่งที่เงินจะงอกเงยขึ้นมาได้ ไม่ควรใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเพื่อกำจัดกิเลสในขณะนั้น

สินค้าส่วนใหญ่เมื่อซื้อแล้วมูลค่าจะลดลงทันที เราต้องคำนึงถึงความจริงข้อนี้ก่อนใช้จ่ายอยู่เสมอ และเงินที่คนคนนึงหาได้จากการใช้แรงงานก็มีจำกัด

การเดินทางไปสู่ความรวยไม่ต่างจากการเดินบนถนนลูกรัง หากคุณเอาแต่หาเงินโดยปราศจากแนวคิดและเป้าหมาย ก็จะสะดุดกว่าทรายลมได้ทุกเมื่อ

เราต้องมีความสัมพันธ์อันดีกับเงิน ต้องมองเงินให้เป็นบุคคลแล้วให้ความรักเหมือนที่ทำกับคนรัก เช่น หากตั้งใจจะลงทุนเป็นจำนวน 10% ของรายได้ เราต้องรักษาสัญญาโดยไม่มีข้อแม้ นอกจากนี้หากพฤติกรรมการใช้เงินบางอย่างไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ เราก็ต้องรักษาความรู้สึกดีๆกับเงินไว้โดยการหยุดพฤติกรรมนั้นเสีย

หยุดโทษใคร แล้วมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายของตัวเอง ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการดุด่า ต่อว่า แต่หมายถึงการยอมรับความล้มเหลวอย่างเจียมตัว แล้วมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหา

หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหา คุณต้องหาสาเหตุอย่างมีเหตุผล อย่าลืมว่าไม่มีสิ่งใดเป็นนิรันดร์ ความล้มเหลวก็เช่นกัน

สิ่งที่ไม่ควรทำมากที่สุดเมื่อกำหนดเป้าหมายและความฝัน คือการตัดสินล่วงหน้าว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่

จุดที่ยากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายคือการตัดสินใจอย่างแท้จริง อย่าใช้เวลาอย่างสูญเปล่าไปกลับการคิดกังวลว่าเราจะทำอย่างไร หรือเราจะทำสำเร็จหรือไม่

ทุกความสำเร็จมาจากการรักตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด เราต้องรักตัวเองและรักในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เราเห็นวิธีแก้ปัญหา

เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ต้องศรัทธาก่อนว่าคุณสามารถทำได้ ความเชื่ออยู่ในจิตสำนึกส่วนความศรัทธาจะอยู่ในจิตใต้สำนึก

การทำความฝันให้เป็นจริงต้องใช้จิตสำนึก 10% และจิตใต้สำนึก 90% จิตใต้สำนึกมีผลต่อชีวิตมากกว่าจิตสำนึก