[รีวิว] สรุปข้อคิดจากหนังสือ “โตขึ้นจึงรู้ว่า” [เล่มที่ 92 ของปี 2023]

โตขึ้นจึงรู้ว่า

บทความที่แล้วพึ่งสรุปหนังสือเรื่อง โตขึ้นมาเป็นความสุข ของ คิดมาก ไป ในบทความนี้ก็ยังคงอยู่กับนักเขียนคนเดียว เล่มนี้ชื่อว่า “โตขึ้นจึงรู้ว่า” หนังสือที่ถูกพิมพ์ซ้ำมาแล้วถึง 14 ครั้ง เล่มนี้เป็นเล่มที่ 92 ของปี 2023 ที่อ่านจบ เล่มนี้ได้บอกกับเราว่า อะไรก็ตามที่เราต่างพบเจอล้วนเป็นบทเรียนบางอย่างให้กับเราเสมอ และทุกบทเรียนที่ผ่านเข้ามาก็ล้วนมีความหมายและมีคุณค่าต่อตัวของเราเอง

สนใจหนังสือเล่มนี้ ซื้อได้ที่
– Lazada: https://s.lazada.co.th/s.9UiG7?cc
– Shopee: https://shope.ee/7A9rJabm3E

หนังสือ “โตขึ้นจึงรู้ว่า” รวม 40 บทความขนาดกำลังดีที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่ทุกคนอาจได้พบเจอเมื่อโตขึ้นมา บางเรื่องราวก็หวานหอม บางเรื่องราวก็ขื่นขม ที่ล้วนเป็นบทเรียนบางอย่างให้กับเราเสมอ และทุกบทเรียนที่ผ่านเข้ามา ก็ล้วนมีความหมายและมีคุณค่าต่อตัวของเราเอง อะไรก็ตามที่เราต่างพบเจอ ล้วนเป็นบทเรียนบางอย่างให้กับเราเสมอ ทุกบทเรียนที่ผ่านเข้ามา ล้วนมีความหมายและมีคุณค่าต่อตัวของเราเอง

สรุปข้อคิดจากหนังสือ “โตขึ้นจึงรู้ว่า”

เราหลีกหนีความทรงจำบางชนิด
พยายามลืมคนบางคน
แต่ก็กลับกลายเป็นการผลิตซ้ำ
ความทรงจำเดิมๆ
มาทำร้ายเราโดยไม่รู้ตัว

การยึดติดกับอดีตคือการเลือก
ที่จะจมอยู่กับความเสียใจ

อย่าตัดสินว่าคนที่มีโลกส่วนตัวสูง
จะต้องเหงาและเศร้าเสมอไป

ความฝันมีค่าเกินกว่าจะทอดทิ้ง
เพราะคำสบประมาทของใคร

ให้ความฝันหมดแรงลง
เพียงเพราะลมปากของใคร

ชีวิตของเรา มันเป็นของเรา
แต่เรากลับมักยอมให้คำพูด
ของคนอื่นบั่นทอนชีวิตของเรา
ทั้งที่ความจริงแล้วคำพูดเหล่านั้น
ก็เพียงทัศนคติของคนอื่น
ที่เมื่อพูดเสร็จเขาก็อาจลืมมันไปแล้ว
แต่กลับสั่นสะเทือนความรู้สึกของคนฟัง

บนโลกใบนี้มีความทุกข์เกิดขึ้นทุกวัน
ไม่เลือกว่าจะเกิดขึ้นกับใคร
อยู่ที่แต่ละคนจะมีวิธีรับมือ
กับความทุกข์นั้นแบบไหน

เราทุกคนมีคุณค่ากับใครบางคนเสมอ
แค่เขาไม่บอก
แค่เราไม่รู้
ไม่ได้แปลว่าไม่มี

ไม่มีใครโชคดีหรือร้ายไปเสียทั้งหมด
โลกก็มีทั้งตามใจและขัดใจเรา
มุมมองที่เรามีต่อเรื่องราว
เหล่านั้นนั่นแหละ
ที่จะกำหนดให้เราเห็นว่า
ชีวิตเป็นแบบไหน

ความรักคือสิ่งสวยงาม
แต่สิ่งสวยงามใช่ว่าจะไม่เจ็บปวด
กุหลาบยังมีหนามคม
สิ่งที่เรียกว่ารักก็ไม่ต่างกัน

ความรักแต่ละครั้ง
ไม่ต่างจากหนังสือ 1 เล่ม
ที่เราเองเป็นตัวละคร
และอีกคนร่วมเขียนไปด้วยกันกับเรา

หน้าตาของความเหงา
อาจเป็นสิ่งที่หลายคนไม่รู้จัก
แต่เชื่อว่าหลายคนคงเคยรู้สึก
รู้สึกถึงสิ่งที่เรียกว่าความเหงา

ชีวิตของคนเราติดค้างกับคำว่า
“ถ้า” มามากเกินไป
อย่าปล่อยให้ชีวิตเต็มไปด้วยคำว่า “ถ้า”
แต่ให้เต็มไปด้วยการลงมือทำ
เสียใจในวันนี้ยังดีกว่าเสียใจในภายหลังเสมอ

เราทุกคนต่างมีความเชื่อ
ที่ฝังในทัศนคติ
แล้วกลายเป็นกับดักทำความคิด
ทำให้เราไปไม่ถึงจุดที่ฝัน
วิธีหลุดพ้นกับดักทางความคิด
คือหยุดคิดไปเอง
หยุดเชื่อว่าเราทำอะไรไม่ได้
จนกว่าจะได้พยายาม

ความรักคือการเปิด
เปิดหูรับฟังเรื่องราว
เปิดใจเรียนรู้กันและกัน

ไม่มีใครพาเรา
ออกมาจากความเจ็บปวดได้
นอกจากตัวเราเอง