[รีวิว] สรุปข้อคิดจากหนังสือ “เมื่อสมาร์ตโฟนปฏิวัติสมอง Smartphone Brain” [เล่มที่ 102 ของปี 2023]

krapalm 20230812 203748 1

เดินทางมาถึงหนังสือเล่มที่ 102 ของปี 2023 ที่อ่านจบแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่ผมอินมากๆ ชื่อหนังสือว่า “เมื่อสมาร์ตโฟนปฏิวัติสมอง Smartphone Brain” เป็นหนังสือที่ควรอ่าน ในศตวรรษที่โลกและมนุษย์ขับเคลื่อนด้วยสมาร์ทโฟน ผู้เขียน Anders Hansen (อันเดอร์ช ฮานเซน) ผู้แปล อาคิรา รัตนาภิรัต

ซื้อหนังสือเล่มนี้
– Lazada: https://s.lazada.co.th/s.9AF4U?cc
– Shopee: https://shope.ee/3fadE4g8f3

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ส่งผลให้มนุษย์เผชิญกับความเครียดรูปแบบใหม่ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน เวลานอนลดลง เวลานั่งเพิ่มขึ้น มีผู้ป่วยทางจิตและเข้ารับการตรวจรักษาเพิ่มขึ้น ผู้คนเป็นกังวลมากมายทั้งที่ชีวิตเพียบพร้อม รู้สึกโดดเดี่ยวทั้งที่สามารถเชื่อมโยงกับคนจากอีกมุมโลกได้ พวกเรามีชีวิตที่สุขสบายแต่สุขภาพกลับแย่ลง…

หนังสือจากประเทศสวีเดนเล่มนี้ จะพาคุณไปร่วมหาคำตอบนั้น ผ่านงานวิจัยที่สามารถตอบข้อสงสัยได้อย่างชัดเจนและตรงประเด็น ด้วยมุมมองด้านวิวัฒนาการของมนุษย์ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของ Anders Hansen ผู้เขียน

สรุปข้อคิดจากหนังสือ “เมื่อสมาร์ตโฟนปฏิวัติสมอง Smartphone Brain”

รู้เวลาการใช้สมาร์ทโฟนของตัวเอง อาจจะต้องใช้แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้รู้ว่าใน 1 วันเราหยุดสมาร์ทโฟนขึ้นมากี่ครั้งและใช้เวลากับมันมากแค่ไหน วิธีนี้ทำให้เราเห็นได้ทันทีว่าสมาร์ทโฟนชิงช่วงเวลาของเราไปมากแค่ไหน

ซื้อนาฬิกาปลุกและนาฬิกาข้อมือแทนการดูเวลาบนสมาร์ทโฟน ฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยสมาร์ทโฟนก็พยายามอย่าใช้สมาร์ทโฟน

ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด ปรับหน้าจอสมาร์ทโฟนให้เป็นสีขาวดำ การทำเช่นนี้ จะส่งผลอย่างมากต่อความรู้สึกอยากเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ

เปิดโหมดเงียบขณะขับรถ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการฟุ้งซ่านในนาทีวิกฤต การได้รับแจ้งเตือนหรือสายเรียกเข้าผิดจังหวะ อาจทำให้เราเสียสมาธิในเวลาที่จำเป็นต้องใช้สมาธิที่สุด

เวลาทำงานที่ต้องใช้สมาธิให้เก็บสมาร์ทโฟนไว้อีกห้องหนึ่ง ห้ามวางใกล้มือ กำหนดเวลาในการเช็คข้อความหรืออีเมล เช่น 2-3 นาทีต่อชั่วโมง

เวลาเจอเพื่อนให้ปิดเสียงสมาร์ทโฟนและวางให้ห่างจากตัว ควรให้ความสนใจกับคนที่อยู่ด้วยกัน หากเราหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาคนอื่นจะทำตาม

ข้อแนะนำสำหรับเด็กและคนหนุ่มสาว ห้ามนำสมาร์ทโฟนเข้าห้องเรียน ไม่เช่นนั้นทักษะในการเรียนรู้จะด้อยลง กำหนดเวลาหน้าจอและพยายามหาอย่างอื่นทำ

จงเป็นตัวอย่างที่ดี มนุษย์เราเรียนรู้จากการเรียนแบบผู้อื่นเด็กจะทำตามสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำ ไม่ใช่ทำเพราะผู้ใหญ่พูดว่า “ทำแบบนี้สิ”

ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ควรวางมือถือแท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ไม่ควรวางสมาร์ทโฟนไว้ในห้องนอน ควรซื้อนาฬิกาปลุกแทนการปลุกด้วยสมาร์ทโฟน

หากต้องวางสมาร์ทโฟนไว้ในห้องนอนจริงๆ ให้ปิดเสียงเรียกเข้า ไม่เช็คอีเมลเรื่องงานก่อนเข้านอน

ในการรับมือกับความเครียด อย่ามองข้ามสัญญาณของความเครียด สัญญาณเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากอย่างอื่นนอกเหนือจากความเครียด หากไม่แน่ใจควรติดต่อแผนกจิตเวช

การออกกำลังกายทุกประเภทล้วนดีต่อสมอง หากอยากลดความเครียดให้ได้มากที่สุดและเพื่อนสมาธิ ควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 45 นาที

social media ควรติดตามเฉพาะคนที่เราอยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยจริงๆ ให้คิดว่า social media คือเครื่องมือในการมีปฏิสัมพันธ์ การเขียนคอมเม้นในโพสต์ของคนอื่นบ่อยๆ จะทำให้เกิดความสนิทสนมและมีสัมพันธ์ที่นั่นแฟนขึ้น

แนะนำให้ลบแอป social media ออกจากสมาร์ทโฟนแล้วใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น