[รีวิว] สรุปเนื้อหาหนังสือ “The Startup Mindset คิดใหญ่ เริ่มไว ใส่ใจ ทำไว เล่นใหญ่ โตไว” [เล่มที่ 66 ของปี 2023]

krapalm 2023 06 19 112620

หนังสือ The Startup Mindset เป็นหนังสือที่รวบรวม 29 แนวคิดจาก Startup Founder คนไทยคนแรกที่ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ Warren Buffett เขียนโดย ธนกฤษณ์ เสริมสุขสัน (Casper S.) สำนักพิมพ์ วิช กรุ๊ป (ไทยแลนด์) และต้องขอบคุณหนังสือจาก Wish Publishing และเล่มนี้ถือเป็นเล่มที่ 66 ของปี 2023 แล้วที่อ่านจบและเขียนรีวิว

หนังสือ The Startup Mindset เล่มนี้ผู้เขียนได้รวบรวมจากประสบการณ์ส่วนตัวทั้งหมดผ่านเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริง ทั้งที่ได้พบจากตัวเองและจากคนรอบข้าง เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพ และมีแรงบันดาลใจในการลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณค่า

ซื้อหนังสือ

ในคำนำของหนังสือ The Startup Mindset เล่มนี้เขียนไว้ชัดเจน ว่าไม่ใช่ how to หรือแนวทางสำหรับการสร้าง startup แต่จะเป็นหนังสือที่ให้แนวคิด ผ่านเรื่องราวที่อยากให้ทุกคนเปิดใจและนำแนวคิดแบบ startup ไปใช้ในการทำงานรวมถึงดำเนินชีวิตในแง่มุมต่างๆ

แน่นอนว่าเมื่ออ่านหนังสือ The Startup Mindset เล่มนี้จบมันอาจจะไม่ได้เปลี่ยนชีวิตของคุณอาจไม่ได้ทำให้คุณเริ่มลุกขึ้นมาทำ startup อาจไม่ได้ทำให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างทันที แต่ก็หวังว่าหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ เรื่องราวต่างๆ จะอยู่ในความทรงจำ ช่วยเป็นกำลังใจ เป็นแนวคิดในการทำงาน ในการใช้ชีวิต ให้คนที่อ่านเริ่มคิดใหญ่ขึ้น เริ่มทำไวขึ้น เล่นใหญ่มากขึ้น และเติบโตไวขึ้นในแบบที่คุณต้องการ

รีวิว: สรุปข้อคิดที่ได้จากหนังสือ The Startup Mindset

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเขียน นักวิจัย นักการเมือง ข้าราชการ ก็สามารถนำวิธีคิดแบบสตาร์ทอัพ ไปใช้เพื่อที่จะทลายกรอบความคิดแบบเดิมๆ ที่อาจจะไม่เหมาะกับการแก้ปัญหาในยุคปัจจุบันและอนาคต

คิดให้ใหญ่ มองโลกในแง่ดี และกัดไม่ปล่อย จะทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เกิดขึ้นได้

นอกจากจะต้องคิดใหญ่แล้ว อย่ายอมลดมาตรฐานเพื่อตามล่าฝัน อย่าให้ประสบการณ์ในชีวิตมาทำลายความฝันในวัยเด็กของเรา

การคิดให้ใหญ่ขึ้นและไม่ยอมเลิกราจนกว่าจะทำได้สำเร็จ บางครั้งเราต้องมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ โดยที่การคิดใหญ่นี้ไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อส่วนรวม เพื่อคนที่เรารัก และเพื่อสังคมที่ดีมากยิ่งขึ้น

การที่เราคิดใหญ่แล้วอยากรู้ว่าสิ่งนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่เราควรเน้นการลงมือทำให้ไว ให้ได้ feedback กลับมาโดยใช้เงินน้อยที่สุด

5 สิ่งที่ควรเริ่มให้ไว
1. เริ่มให้ไวในการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ในการเริ่มทำธุรกิจ
2. เริ่มให้ไวในการหาทางออกและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่อยากได้
3. เริ่มให้วัยในการสร้างเครือข่าย connection
4. เริ่มให้ไวในการลงมือทำให้ได้ลูกค้าคนแรก
5. เริ่มให้ไวในการเพิ่มความกล้า กล้าคุยกับคนแปลกหน้าและลูกค้าในอนาคต

การแก้ปัญหาไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาที่สามารถเริ่มได้เร็วที่สุด

นักพัฒนามือใหม่มักคิดถึงการสร้างเว็บไซต์หรือ application เพื่อแก้ทุกปัญหา แต่สำหรับนักพัฒนามืออาชีพจะเน้นการสร้าง solution ที่เหมาะสมกับผู้ใช้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเขา

การเริ่มต้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่สำคัญกว่าก็คือการใส่ใจในรายละเอียดและความต้องการของอีกฝ่าย

การเอาใจใส่ในรายละเอียดต่างๆ จะทำให้เรามีเวลามากขึ้น ใส่ใจกับทุกนาทีของคุณ แล้วทุกนาทีของคุณก็จะมีค่ามากยิ่งขึ้น

สิ่งที่คนทำ startup แนะนำคือ ให้เอาตัวเองไปอยู่ที่หน้างานและพูดคุยกับผู้ใช้ จะได้เข้าใจปัญหา ช่วยหาทางแก้ไข และรวบรวมรายละเอียดจากหน้างานจริง ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อๆ ไป

ความเอาใจใส่ในรายละเอียดของผู้นำองค์กรและพร้อมที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญของผู้บริหารบริษัท startup

วัฒนธรรมองค์กรที่มีเรื่องความอาวุโสทางหน้าที่การงานและอายุเข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งทำให้เกิดความยากลำบากในระบบการทำงานและการสื่อสาร ส่งผลทำให้ไม่สามารถสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมา

การลงมือทำอะไรให้ไวไม่จำเป็นจะต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ 100% แนวทางการคิดและทำงานแบบ startup ก็คือการที่เราต้องมีสินค้าออกมาให้ลูกค้าเห็น อาจจะไม่ใช่แบบฉบับที่สมบูรณ์แต่ก็มีความเหมือนจริง หากไม่รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรเราสามารถออกแบบไปก่อน เพื่อให้ลูกค้าเลือก จากนั้นเราค่อยผลิต

ทุกคนมีลำดับความสำคัญของชีวิตที่แตกต่างกันไป แต่ละช่วงเวลาสั้นๆ ที่มี อาจสร้างประโยชน์ก็เป็นได้

ข้อดีของการทำงานแบบ startup ก็คือเรามักจะมีเวลาและทรัพยากรที่จำกัด แต่เราจะต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อมอยู่เสมอ

ทุกเวทีมีโอกาสที่คาดไม่ถึงอยู่เสมอ ถ้าคุณต้องเปลี่ยนรหัส WiFi ของออฟฟิศ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นบทสนทนากับนักลงทุนคุณก็ต้องทำ “InvesIn…” แปลว่า ลงทุนกับบริษัทพวกเรา

ต้องคิดแบบ startup คิดแบบคนที่พึ่งเริ่มต้นอยู่เสมอ ไม่ทิ้งความขี้สงสัย ความเอาใจใส่ และกล้าลอง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ

ย้ำเตือนค่านิยมที่บริษัทยึดถือ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้ตัดสินใจ อย่างน้อยทุกคนก็ตัดสินใจโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานค่านิยมเดียวกัน

ในโลกที่คุณต้องการให้เป็นที่จดจำและสร้างความแตกต่าง คุณอาจต้องมองหาจุดต่างที่ทำให้คนจดจำคุณได้

ทุกขั้นตอนการบริหาร startup ควรมีระบบที่แตกต่างกัน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือ เพราะถ้าคุณไม่เตรียมพร้อมในการเติบโตทุกสิ่งจะพังทลายลง การบริหารเพื่อรับลูกค้า 30 คน กับ 100 คนไม่เหมือนกัน การเตรียมระบบเพื่อรับยอดขาย 1 ล้าน 3 ล้าน และ 10 ล้านก็ไม่เหมือนกัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กจบใหม่ พนักงาน หรือแม้แต่กระทั่ง startup founder ที่อยากจะพัฒนาบริษัทสิ่งหนึ่งที่ช่วยเหลือคุณ คือการมี mentor ที่ดี