หนังสือ แมว 9 ชีวิตสอนฉันว่า “เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว” เป็นหนังสือที่คนรักการอ่านและก็เป็นทาสแมวน่าจะถูกใจ เนื้อหาว่าด้วยเรื่องราวที่ปรึกษาแมวเหมียว 9 ชีวิต ที่ผ่านเรื่องราวอะไรต่อมีอะไรมามากมายเกิดใหม่มาหลายครั้ง ได้เป็นทั้งแมวของนักธุรกิจ นักเขียน เด็ก หรือแม้แต่แมวจรจัด แมวที่มีดวงตาที่มืดบอด เคยสัมผัสชีวิตมาทุกรูปแบบทั้งความเจ็บปวดสุดแสนยากลำบาก จนไปถึงความสุขล้นในแบบที่หาไม่มีอีกแล้ว โดยแมวจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคอยรับฟังคำพูดและปัญหาของมนุษย์ แนะนำการใช้ชีวิตต่าง ๆ มากมายทั้งในเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ เพื่อน การงาน ครอบครัว รวมถึงดูแลจิตใจของตัวเราเอง เพราะแมวอยู่มาตั้ง 9 ชีวิตแล้ว จึงไม่แปลกที่จะมีมุมมองแตกต่างจากคนเราที่มีเพียงแค่ชีวิตเดียว
ว่ากันว่าแมวมี 9 ชีวิตก็เลยรู้เรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมาย นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นขอหนังสือ แมว 9 ชีวิตสอนฉันว่า “เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว” เล่มนี้ เป็นเรื่องราวของที่ปรึกษาแมวเหมียว ที่จะคอยรับฟังคำพูดของมนุษย์ จะมาตอบคำถามจิตใจมนุษย์ ลดความกังวลกับเรื่องราวทั้งความสัมพันธ์ ความรัก คุณค่าของตัวเอง ความผิดหวัง และปัญหาจิตใจในชีวิตอย่างเป็นกันเอง เข้าใจง่าย คล้ายถามตอบกับผู้มีประสบการณ์ เพราะมนุษย์มักสบายใจเวลาคุยกับสัตว์เลี้ยง ได้ระบายความรู้สึกแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้พูดอะไร แต่หากมันแนะนำเราได้ก็คงไม่ต่างจากคำพูดเตือนใจในเล่มนี้ที่แมวที่ปรึกษา 9 ชีวิตสีขาวปุยกลมป๊อกกำลังแนะนำคุณอยู่นั่นเอง ความสุขที่ถ่ายทอดถึงการผ่านบทสนทนาระหว่างเรากับเจ้าเหมียวเป็นเหมียวนิรนามที่นั่งอยู่บนหลังคาบ้านสักหลังและอาจจะเป็นแมวของใครสักคนก็ได้
เนื้อหาในหนังสือจะเริ่มต้นได้หัวข้อที่เป็นปัญหาหรือคำถามที่มนุษย์พบเจอ แล้วเจ้าแมวเหมียวจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแนะนำให้แนวคิดหรือมุมมองในเรื่องนั้นๆ
ยกตัวอย่างในเรื่อง
มนุษย์ปรึกษาว่า “ทุกวันนี้คบกันมันน่าเศร้าและทุกข์ใจกว่าตอนที่ก่อนคบกันอีกหลังจากตัดสินใจคบกันแต่ละการกระทำและคำพูดของเขาเริ่มมีผลกระทบต่อชีวิตฉันมากขึ้นเรื่อยๆ”
เจ้าเหมียวได้ตอบว่า “เพราะเธอเอาทั้งชีวิตของเธอไปผูกติดกับเขาไงก็เลยเป็นอย่างนั้น เธอยอมถวายทุกอย่างที่มีเพื่อเขาได้แต่สำหรับเขาอาจจะไม่ใช่ก็ได้แค่นั้นก็ทำให้เจ็บปวดแล้วยิ่งคาดหวังยิ่งน้อยใจยิ่งเศร้าใจหากอยากมีความสุขกับใครสักคนอย่าลืมโฟกัสที่ตัวเองก่อน”
มนุษย์ปรึกษาว่า “แม้ฉันทำทุกอย่างที่ทำได้แล้วแต่เขาก็ยังมีสีหน้าไม่ดีอยู่อย่างนั้นฉันว่าฉันทำดีที่สุดแล้วนะจะต้องทำอะไรมากกว่านี้อีกหรอ”
เจ้าเหมียวได้ตอบว่า “อย่าหมดความสุขไปกับคนแบบนั้นคนที่เอาแต่รับความรู้สึกดีๆของคนอื่นโดยไม่รู้สึกขอบคุณเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรได้รับอยู่แล้วคนที่ไม่มีความสุขคือคนนั้นต่างหากเพราะยากเกินกว่าจะรับรู้ถึงความสุขได้”
คำแนะนำจากแมวอาจเข้าใจคุณมากกว่าตัวคุณเองก็ได้ ผู้เขียนหวังว่าเราจะค้นพบความสุขที่อยู่ไม่ไกลมันอยู่เคียงข้างเราเสมอเพียงแค่เราไม่เห็นมันเท่านั้นเองหวังว่าเราจะได้พบกับความสุขและความยินดีเล็กๆน้อยๆผ่านหนังสือเล่มนี้